คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2753/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้ จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่อ้างว่าโจทก์กับพวกสมรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริต และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างว่าการบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย คำร้องเช่นนี้จะต้องยื่นต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันได้ทราบถึงการกระทำนั้นๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 และ 296 หากมิได้ยื่นภายในกำหนดดังกล่าวจำเลยย่อมไม่มีสิทธิคัดค้านการขายทอดตลาดนั้น

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยจำเลยไม่ชำระ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์ของจำเลยคือที่ดิน๒ แปลง และได้ทำการขายทอดตลาดเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๑๔มีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้
วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๑๔ จำเลยยื่นคำร้องว่าวันขายทอดตลาดจำเลยป่วยมาศาลไม่ได้ ราคาที่เจ้าพนักงานขายทอดตลาดเป็นราคาต่ำมาก ขอให้ขายทอดตลาดใหม่โดยจำเลยจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ ต่อมาวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๑๔จำเลยขอถอนอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต
วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ จำเลยยื่นคำร้องว่าโจทก์กับพวกเข้าประมูลซื้อที่ดินโดยไม่สุจริต สมรู้กันประมูลโดยกดราคา จึงขายได้ราคาต่ำกว่าราคาปานกลางและการขายทอดตลาดก็ทำไม่ถูกต้องขอให้สั่งขายทอดตลาดใหม่
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตั้งแต่วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๑๔ จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ขายทอดตลาดใหม่มาครั้งหนึ่งแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องจำเลยอุทธรณ์ แต่ภายหลังกลับขอถอนอุทธรณ์นั้นเสียและยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่อีกเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๔หลังจากการขายทอดตลาดได้ล่วงเลยมาแล้วเป็นเวลาเกือบ ๒ เดือนโดยอ้างว่าโจทก์กับพวกสมรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริตและเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งล้วนแต่เป็นการกล่าวอ้างว่าการบังคับคดีได้กระทำโดยไม่ชอบและเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย คำร้องเช่นนี้จะต้องยื่นต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันได้ทราบถึงการกระทำนั้น ๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗, ๒๙๖ แต่ตามคำร้องของจำเลยหาได้กล่าวไม่ว่า จำเลยได้ทราบถึงการกระทำที่ไม่ชอบและฝ่าฝืนกฎหมายนั้นเมื่อใด ตามพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจำเลยได้ทราบถึงการฝ่าฝืนนั้นในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๑๔ อันเป็นวันที่จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้มีการขายทอดตลาดใหม่ในครั้งแรก คำร้องฉบับหลังนี้จำเลยมิได้ยื่นต่อศาลภายในกำหนดแปดวันนับแต่วันทราบถึงการฝ่าฝืนจำเลยย่อมไม่มีสิทธิคัดค้านการขายทอดตลาดนั้นได้อีก จึงไม่จำต้องวินิจฉัยคำร้องของจำเลย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลที่ศาลล่างให้ยกคำร้องของจำเลย
พิพากษายืน

Share