คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤติการณ์ที่จำเลยมีอาวุธมีดเข้าไปถามหาเรื่องจะทำร้ายพวกของผู้ตายและทำร้ายพวกคนหนึ่งของผู้ตายครั้งหนึ่งแล้วเมื่อพวกจำเลยพบพวกผู้ตายกำลังจะกลับบ้าน พวกจำเลยได้ไล่แทงทำร้ายผู้ตาย จำเลยก็ขัดขวางไม่ให้พวกของผู้ตายช่วยเหลือเมื่อผู้ตายวิ่งมาล้มลง จำเลยก็เตะต่อยซ้ำเติมแม้จำเลยจะไม่ได้แทงผู้ตาย จำเลยก็มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาด้วยเพราะถือว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับพวกเพื่อจะแทงทำร้ายผู้ตายกับพวกมาแต่เริ่มแรกแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 2 คนที่หลบหนี ร่วมกันกลุ้มรุมเตะและแทงนายสุรี ใยยวง ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 ขณะเกิดเหตุจำเลยมีอายุไม่เกิน17 ปี ลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตาม มาตรา 75 จำคุกจำเลย 8 ปีคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ ลดหนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 5 ปี 4 เดือน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยถือมีดเข้าไปในร้านกับพวกอีกคนหนึ่ง ได้มีการพูดซักถามและท้าทายนายเสน่ห์แล้วออกไปยืนคอยอยู่ที่หน้าร้าน เมื่อนายเสน่ห์กับผู้ตายไม่ออกไปตามคำท้า จำเลยก็เข้ามาเตะและใช้มีดแทงนายเสน่ห์ และเมื่อจำเลยกับพวกมาพบผู้ตายกับพวกกำลังจะกลับบ้าน จำเลยก็ได้ทำการขัดขวางนายเสน่ห์ นายเกษียรไม่ให้ติดตามช่วยเหลือผู้ตาย ซึ่งกำลังถูกพวกของจำเลยไล่ทำร้าย และเมื่อผู้ตายวิ่งย้อนกลับมาล้มลง จำเลยก็เข้าช่วยเตะต่อยซ้ำเติมแม้จำเลยจะไม่ได้แทงผู้ตาย แต่พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาร่วมกับพวกจำเลยเพื่อจะแทงทำร้ายนายเสน่ห์และผู้ตายกับพวกมาก่อนแล้ว

พิพากษายืน

Share