แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน โดยวินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันมาแล้วว่า จำเลยออกเช็คให้โจทก์ร่วมโดยมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เมื่อข้อฎีกาขอบจำเลยที่อ้างว่าเป็นข้อกฎหมาย มีใจความเป็นการโต้แย้งว่า จำเลยออกเช็ค โดยมิได้มีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ฎีกาของจำเลยย่อมเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๐ เวลากลางวัน จำเลยออกเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด ลงวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๑๑ สั่งจ่ายเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท มอบให้นายสวัสดิ์ บุญผึ้ง เพื่อชำระหนี้เงินยืม ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๑๑ นายสวัสดิ์นำเช็คดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคารเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้นแล้ว ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน แจ้งว่าผู้สั่งจ่ายปิดบัญชีแล้ว ทั้งนี้ จำเลยออกเช็คโดยขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชี อันจะพึงใช้เงินได้ และออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เหตุเกิดที่ตำบลสามเสนใน อำเภอพญาไท อำเภอป้อมปราบ จังหวัดพระนคร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ นับโทษต่อจากคดีอาญาแดงที่ ๑๓๐๕/๒๕๑๒ ของศาลอาญา
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นคนคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาแดงที่ ๑๓๐๕/๒๕๑๒ จริง
นายสวัสดิ์ บุญผึ้ง ผู้เสียหายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ จำคุก ๒ เดือน นับโทษต่อจากคดีอาญาแดงที่ ๑๓๐๕/๒๕๑๒ ของศาลอาญา
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะข้อกฎหมายที่ว่า จำเลยออกเช็คชำระหนี้เงินที่ยืมไป แล้วเบิกเงินไม่ได้ โดยบัญชีปิดแล้ว จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ หรือไม่
ศาลฎีกาพิเคราะห์ฎีกาของจำเลยแล้ว ปรากฏว่าข้อฎีกาในส่วนที่จำเลย อ้างว่าเป็นข้อกฎหมายนั้น มีใจความว่า หากศาลจะรับฟังว่า ความจริงผู้เสียหายให้จำเลยยืมเงิน แต่มิได้ทำสัญญากู้ยืมกันไว้ เพราะผู้เสียหายประสงค์จะเอาโทษทางอาญาบังคับจำเลยในเมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ จึงให้จำเลยออกเช็คให้ยึดถือไว้เป็นประกัน การออกเช็คของจำเลย จึงมิได้มีเจตนาจะออกให้เพื่อชำระหนี้แก่ผู้เสียหาย ไม่เป็นความผิดตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ข้อฎีกาของจำเลยดังนี้ เท่ากับจำเลยฎีกาโต้แย้งว่าจำเลยออกเช็คโดยมิได้มีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๑๘ ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยโดยเห็นว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย