แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้อาวุธปืนพกสั้นแบบโอโตเมติคบรรจุกระสุนปืน 2 นัดยิงเจ้าพนักงานตำรวจในระยะห่าง 1 เมตร แต่กระสุนปืนขัดลำกล้องจึงไม่ลั่น ปืนของกลางนี้เป็นปืนที่ใช้ยิงได้ไม่ชำรุด กระสุนปืนตั้ง 2 นัด ก็ใช้ยิงได้ ปืนและกระสุนปืนของกลางใช้ยิงด้วยกันได้ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 80,(ตามนัยฎีกาที่ 771/2513,147/2504 และ 980/2502)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกสั้นโอโตเมติค 1 กระบอกกระสุนปืน 2 นัด โดยไม่ได้รับอนุญาตและได้ทำการชิงทรัพย์นางเฉลียว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามจับกุม จำเลย ไปพบจำเลยระหว่างทาง จำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงร้อยตำรวจโทศิริ ทองมี โดยเจตนาฆ่าแต่กระสุนปืนขัดลำกล้องยิงไม่ออก ร้อยตำรวจโทศิริจึงไม่ตายสมเจตนาจำเลย เหตุเกิดที่ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 288, 289, 80 และพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ริบของกลาง
จำเลยรับสารภาพในข้อหาอาวุธปืน ปฏิเสธในข้อหาพยายามฆ่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนให้จำคุก 6 เดือน และผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 ให้จำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือนข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289, 80 อีกกระทงหนึ่ง ให้จำคุก 16 ปี ลดโทษให้ตามมาตรา 78หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี 8 เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ขณะที่ร้อยตำรวจโทศิริกับพวกได้ไล่ติดตามจำเลยเพื่อจับกุม จำเลยชักปืนหันมาจ้องไปทางเจ้าพนักงานชั้นสอบสวน จำเลยรับว่าจำเลยได้กระชากลูกเลื่อนและจ้องปืนยิงไปทางเจ้าพนักงานแต่เหนี่ยวไกไม่ลงเพราะกระสุนปืนขัดลำกล้อง เมื่อจับจำเลยได้ร้อยตำรวจตรีไพบูลย์ได้ถอนแหนบกระสุนปืนออกและกระชากลูกเลื่อนดู กระสุนปืนก็หลุดออกมาจากรังเพลิง 1 นัด แสดงว่าได้มีการกระชากลูกเลื่อนขึ้นลำกระสุนไว้แล้ว กองพิสูจน์หลักฐานพิสูจน์ว่าปืนของกลางเป็นปืนที่ให้ยิงได้ไม่ชำรุด กระสุนปืนทั้ง 2 นัดก็ใช้ยิงได้อาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางใช้ทำการยิงด้วยกันได้ จำเลยใช้ปืนยิงเจ้าพนักงานในระยะเพียง 1 เมตร แต่กระสุนปืนขัดลำกล้องจึงไม่ลั่น หากกระสุนปืนลั่นออกไป เจ้าพนักงานอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
พิพากษายืน