แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยคดีนี้ เคยเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลยมาแล้วคดีถึงที่สุด ศาลฎีกาพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยคดีนี้(โจทก์ในคดีก่อน) แล้ว โจทก์มารื้อฟื้นฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่พิพาทแปลงเดียวกันนี้อีก เป็นฟ้องซ้ำ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า คดีสืบเนื่องมาจากคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๑๙/๒๕๐๒ ระหว่างนายหีต แซ่ลิ่ม โจทก์ ขุนอนันตคีรี จำเลย เรื่องที่ดิน ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่านายหีตโจทก์ไม่มีสิทธิในที่พิพาท เพราะอาศัยจำเลยอยู่ และนายหีตโจทก์เบิกความว่ายกที่พิพาทให้นางพับนายดำริห์แล้ว นายหีตโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง นายหีตอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นทั้งสองประเด็น นายหีตฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืนในประเด็นเดียวว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อศาลสูงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นก็เท่ากับยอมรับว่าศาลชั้นต้นพิพากษาถูกต้องทุกประการ เป็นยุติว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยตามสำนวนในคดีนั้นแล้ว ต่อมานางพับและนายดำริห์เป็นโจทก์ฟ้องขุนอนันตคีรีเป็นจำเลยอ้างว่าที่ดินรายพิพาทเป็นของนางพับนายดำริห์โจทก์ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๓๑/๒๕๐๖คดีถึงที่สุด ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ โดยนายหีตบิดายกให้ แต่นายหีตยกที่พิพาทที่ไม่ใช่ของตนให้จำเลย เช่นนี้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิหรือกรรมสิทธิในที่พิพาท ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์มีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลย ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินรายพิพาทและชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ที่พิพาทในคดีนี้โจทก์จำเลยเคยพิพาทกันมาแล้วในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๑๙/๒๕๐๒ ซึ่งคดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษาว่านายหีตโจทก์ในคดีนั้นไม่มีอำนาจฟ้องต่อมาจำเลยทั้งสองเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๓๑/๒๕๐๖ คดีถึงที่สุดโดยคำพิพากษาฎีกา คดีจึงฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยทั้งสองในคดีนี้แล้ว โจทก์จะกลับมารื้อฟื้นฟ้องร้องจำเลยซึ่งเป็นคู่ความเดียวกันอีก เพื่อให้ศาลวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์นั้นไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๑๙/๒๕๐๙ ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดเพียงประเด็นเดียวว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเท่านั้น หาได้วินิจฉัยว่านายหีตโจทก์ในคดีนั้นไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทอย่างใดไม่โจทก์จะถือเอาคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีนั้นที่ยังไม่สิ้นสุดยุติว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ มายันจำเลยมิได้คู่ความในคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกับคู่ความในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๓๑/๒๕๐๖ ประเด็นที่พิพาทเป็นประเด็นเดียวกัน เมื่อศาลฎีกาได้พิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๓๑/๒๕๐๖ ว่าที่พิพาทรายนี้เป็นของนางพับและนายดำริห์โจทก์ในคดีนั้นแล้ว ขุนอนันตคีรีซึ่งเป็นจำเลยในคดีนั้นจะนำคดีมาฟ้องร้องว่ากล่าวในคดีนี้ว่าที่พิพาทแปลงเดียวกันเป็นของตนอีกหาได้ไม่ ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๘ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน