คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์การเกษตรจะได้จดทะเบียนเป็นสมาคมเป็นนิติบุคคลต่างหากจากสหกรณ์การเกษตรจำเลยก็ตาม แต่สมาคมนี้นับได้ว่าอยู่ในเครือเดียวกับจำเลยโดยมีกำเนิดสืบเนื่องมาจากวัตถุประสงค์ของกิจการจำเลย ผู้สมัครเป็นสมาชิกสมาคมล้วนเป็นสมาชิกของจำเลย เนื่องด้วยสมาคมไม่มีเจ้าหน้าที่ของตนเองจำเลยจึงมอบหมายให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำของจำเลยดำเนินการรับสมัครสมาชิกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสมาคมและยังมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคม ถือได้ว่าจำเลยมอบให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเพื่อกระทำการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของจำเลยแล้ว ดังนี้ เมื่อโจทก์ยักยอกเงินค่ารับสมัครสมาชิกสมาคมจึงเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ที่จำเลยมอบหมายแก่โจทก์ จำเลยจึงเลิกจ้างหรือไล่โจทก์ออกจากงานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินบำเหน็จ ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีและค่าชดเชย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย จำเลยมีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานโดยวินิจฉัยว่าโจทก์จงใจไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของสหกรณ์และข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ทุจริตต่อหน้าที่ คำสั่งดังกล่าวไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน เมื่อจำเลยไล่โจทก์ออกจากงานก็ไม่ได้จ่ายเงินค่าชดเชย ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีและเงินบำเหน็จ ขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายเงินบำเหน็จ ค่าทำงานในวันหยุดและค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า การที่จำเลยไล่โจทก์ออกจากงานเพราะโจทก์ทำการทุจริตอันเป็นความผิดอาญาต่อจำเลย จงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงกล่าวคือจำเลยมอบหมายให้โจทก์เชิญชวนและรับสมาชิกเพื่อก่อตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อันเป็นการดำเนินการกิจการตามวัตถุประสงค์ของจำเลย แต่โจทก์กลับเบียดบังเงินที่โจทก์เรียกเก็บจากสมาชิกผู้สมัครแทนจำเลยไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเอง ไม่ส่งเงินซึ่งจำเลยมอบให้เรียกเก็บตามระเบียบแก่จำเลย ทั้งก่อนจดทะเบียนและหลังจากจดทะเบียนสมาคมแล้วความผิดของโจทก์ต้องโทษถึงขั้นไล่ออกตามระเบียบ ฯ ของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จและเงินชดเชยจากจำเลยตามระเบียบของจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การที่โจทก์รับเงินจากสมาชิกแล้วไม่นำส่งสมาคม เป็นการผิดระเบียบของจำเลยและสมาคม เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินบำเหน็จ ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีและค่าชดเชย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ถึงแม้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์จะได้จดทะเบียนเป็นสมาคมเป็นนิติบุคคลต่างหากจากจำเลย แต่นับว่าอยู่ในเครือเดียวกับจำเลย โดยมีกำเนิดสืบเนื่องมาจากวัตถุประสงค์ของกิจการจำเลยซึ่งมุ่งร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิก ผู้สมัครเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ล้วนเป็นสมาชิกของจำเลย และสมาคมไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเป็นของตนเอง จำเลยมอบหมายให้โจทก์ดำเนินการรับสมัครสมาชิกตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ยังมิได้จดทะเบียนสมาคม ย่อมถือได้ว่าจำเลยมอบให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ที่จำเลยมอบหมายแก่โจทก์ จำเลยจึงเลิกจ้างหรือไล่โจทก์ออกจากงานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินบำเหน็จ ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีและค่าชดเชย
พิพากษายืน

Share