คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2654/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้วแต่ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาแล้วให้พิจารณาสืบพยานโจทก์ไป เสมียนทนายจำเลยเพิ่งนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีปากเดียวเสร็จสิ้นแล้ว ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีชอบแล้ว
ทนายจำเลยผู้ขาดนัดพิจารณามาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไปแล้ว จึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2)
การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตามมาตรา 205 วรรคสาม (1) และจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งให้โจทก์ซื้อหุ้นของบริษัทโจทก์ ๔๐๐ หุ้น หุ้นละ ๑,๖๔๐ บาท โจทก์ออกเงินทดรองจ่ายค่าซื้อหุ้นแทนจำเลย รวมค่านายหน้าเป็นเงิน ๖๕๘,๖๒๔ บาทจำเลยต้องชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๔ ต่อปี รวมจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ๗๐๙,๖๕๓.๘๓ บาทเมื่อหักกลบลบหนี้กับตั๋วเงินที่จำเลยนำมาประกัน ๓๐๐,๐๐๐ บาทแล้ว จำเลยคงเป็นหนี้โจทก์ ๔๐๙,๖๕๓.๘๓ บาท ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่าไม่เคยสั่งซื้อหุ้นใด ๆ กับโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
วัดนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาโจทก์สืบพยานได้ ๑ ปาก แล้วแถลงหมดพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ ๓๕๘,๖๒๔ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาแล้วให้พิจารณาสืบพยานโจทก์ไป เสมียนทนายจำเลยเพิ่งนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีปากเดียวเสร็จสิ้นแล้ว ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีชอบแล้ว ส่วนที่จำเลยขอซัดค้านพยานโจทก์นั้น ปรากฏว่าทนายของจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าซักสืบไปแล้วจึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่ได้สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๕ วรรคสาม (๒)ดังนั้นจำเลยจะขอซักค้านพยานโจทก์ที่สืบไปแล้วหาไม่ได้ ที่จำเลยฎีกาขอสืบพยานจำเลยนั้น เห็นว่า การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตาม มาตรา ๒๐๕ วรรคสาม (๑)จำเลยยื่นบัญชีพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบ การที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ได้ ๑ ปาก โจทก์แถลงหมดพยาน ศาลชั้นต้นถือว่าเสร็จการพิจารณาไม่นัดสืบพยานจำเลยเพื่อให้จำเลยนำพยานเข้าสืบ จึงเป็นการไม่ชอบ กรณีสมควรให้จำเลยนำพยานเข้าสืบต่อไป
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นให้จำเลยนำพยานเข้าสืบแล้วพิพากษาใหม่

Share