คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อรูปคดีฟังได้ว่า จำเลยคลอดบุตรออกมาแล้วไม่ขอความช่วยเหลือใคร ไม่บอกให้ใครทราบ จำเลยได้ดึงสายสะดือเด็กจนขาด แล้วทิ้งรกลงในส้วมและลาดน้ำล้างโลหิตจนหมด เอาเด็กวางไว้ในอ่างปัสสาวะ เปิดน้ำไหลลาดท่วมตัว ทำให้น้ำเข้าปากและปอดเด็ก แล้วเด็กนั้นตายเพราะปอดบวมในวันรุ่งขึ้น ถือได้แล้วว่าเป็นการที่จำเลยกระทำโดยรู้สึกในการที่กระทำนั้น และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า การทำดังนี้ เด็กบุตรของจำเลยอาจตายได้ ประกอบกับเหตุที่จำเลยทำไปทั้งนี้ก็เพราะจำเลยไม่ต้องการบุตรคนนี้ จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง
กรณีตามพฤติการณ์หาใช่จำเลยมีเจตนาเพียงต้องการทิ้งบุตรของจำเลยไว้ให้แก่โรงพยาบาลไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าเด็กชายเกิดใหม่ อายุ ๑ ส่วน ๓๖๕ ปีบุตรตนเองโดยกระทำทารุณโหดร้าย ด้วยการใส่เด็กดังกล่าวลงในอ่างปัสสาวะชาย แล้วเปิดน้ำประปาให้ไหลท่วมตัวจนเด็กตายในเวลาต่อมา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๕)
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยฆ่าเด็กโดยเจตนา แต่ไม่ถึงกับโดยกระทำทารุณโหดร้าย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๕ ปี แต่จำเลยอายุไม่เกิน ๒๐ ปี ลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสาม และคำรับชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้ตามมาตรา ๗๘ อีกหนึ่งในสามคงจำคุกจำเลย ๖ ปี ๘ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า รูปคดียังเป็นที่สงสัย จำเลยอาจมีเพียงเจตนาละทิ้งบุตรไว้ในความอุปการะของโรงพยาบาล ไม่ถึงกับมีเจตนาฆ่าพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาพิเคราะห์เห็นว่า หากจำเลยคลอดบุตรออกมาแล้วไม่เอาไปใส่ไว้ในอ่างปัสสาวะและเปิดน้ำให้ไหลลาดตัวเด็กเช่นนั้นก็อาจเป็นการแสดงเจตนาของจำเลยว่า จำเลยเพียงต้องการละทิ้งบุตรของจำเลยให้แก่โรงพยาบาลดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัย แต่การที่จำเลยคลอดบุตรออกมาแล้วไม่ขอความช่วยเหลือใครไม่บอกให้ใครทราบ จำเลยได้ดึงสายสะดือเด็กจนขาด แล้วทิ้งรกลงในส้วมและลาดน้ำล้างโลหิตจนหมดเอาเด็กวางไว้ในอ่างปัสสาวะ เปิดน้ำให้ไหลลาดท่วมตัวทำให้น้ำเข้าปากและปอดเด็ก แล้วเด็กนั้นตายเพราะปอดบวมในวันรุ่งขึ้นเป็นการที่จำเลยกระทำโดยรู้สึกในการที่กระทำนั้นและจำเลยอาจเล็งเห็นผลได้ว่าการทำดังนี้ เด็กชายบุตรของจำเลยอาจตายได้และเหตุที่จำเลยทำไปทั้งนี้ก็เพราะจำเลยไม่ต้องการบุตรคนนี้ จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๙ วรรค ๒
พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share