คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11161/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ วรรคสองที่ว่า ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำขอเฉลี่ยทรัพย์ เว้นแต่ศาลเห็นว่าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถเอาชำระได้จากทรัพย์สินอื่นๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา นั้น คำว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาในที่นี้หมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ถูกยึดทรัพย์สินอยู่ในคดีนี้ ถ้าไม่มีทรัพย์สินอื่นอีก ผู้ขอก็ขอเฉลี่ยจากเงินที่ขายทรัพย์ได้ หาได้หมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นในคดีที่ผู้ขอเฉลี่ยชนะคดีไม่ (อ้างฎีกาที่ ๑๗๖/๒๔๙๔)

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์บังคับคดีนำยึดทรัพย์จำเลยที่ ๑-๒ ขายทอดตลาด ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ ๒ ตามคำพิพากษาในคดีอีกเรื่องหนึ่ง ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยอ้างว่า จำเลยไม่มีทรัพย์อื่นอีก
โจทก์คัดค้านว่า คดีที่ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา มีลูกหนี้หลายคน ผู้ร้องยังมิได้บังคับคดีแก่ลูกหนี้คนใดเลย จะอ้างว่าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินไม่ได้ ลูกหนี้อื่นมีทรัพย์สินพอจะชำระหนี้
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นางอุบลจำเลยลูกหนี้คนหนึ่งของผู้ร้องยังมีที่ดิน ผู้ร้องชอบที่ติดจะติดตามนำยืดทรัพย์นางอุบลก่อน ไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์สินในดคีนี้ สั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นางอุบลลูกหนี้ตามคำพิพากษาอีกคนหนึ่งจะมีทรัพย์สินหรือไม่ ไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับสิทธิของผู้ร้องที่จะขอเฉลี่ยทรัพย์ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ วรรคสอง ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ ๒ ไม่มีทรัพย์สินอะไรอีก ผู้ร้องมีสิทธิขอเฉลี่ยจากทรัพย์สินของจำเลยที่ ๒ ที่ถูกยึดและขายทอดตลาดได้พิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้ตามคำร้อง
โจทก์ฎีกาว่า นางอุบลลูกหนี้ตามคำพากษาอีกคนหนึ่งของผู้ร้องยังมีทรัพย์สินอยู่อีก ผู้ร้องจึงขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีนี้ไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ วรรคสอง ที่ห้ามมิให้ศาลอนุญาติตามคำขอเฉลี่ยทรัพย์ เว้นแต่ศาลเห็นว่า ผู้ยื่นคำขอไม่สามารถเอาชำระได้จากทรัพย์สินอื่นๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น คำว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาในที่นี้ หมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ถูกยึดทรัพย์สินอยู่ในคดีนี้ถ้าไม่มีทรัพย์สินอื่นอีก ผู้ขอก็ขอเฉลี่ยจากเงินที่ขายทรัพย์ได้ หาได้หมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นในคดีที่ผู้ขอเฉลี่ยชนะคดีไม่ ดังฎีกาที่ ๑๗๖/๒๔๙๔ ที่ศาลอุทธรณ์อ้าง
พิพากษายืน

Share