คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5068/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่จำเลยยื่นคำให้การเป็นหนังสือ หากจำเลยประสงค์จะให้ศาลวินิจฉัยปัญหาข้อใดเป็นคุณแก่ตน ก็ต้องกล่าวข้อเท็จจริงเป็นข้อต่อสู้ไว้ให้ชัดแจ้งในคำให้การเพื่อให้คดีมีประเด็นข้อพิพาทไว้ คำให้การที่ว่า “โจทก์ฟ้องคดีไม่สุจริตทั้งนี้ก่อนออกจากบริษัท จำเลยโดยความเมตตาต่อโจทก์ ได้มอบเงิน 19,000 บาท ให้โจทก์และผลประโยชน์อื่น ๆ แก่โจทก์โดยจำเลยมิจำเป็นต้องให้โจทก์แต่ประการใดแต่ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม” เป็นคำให้การที่ไม่มีประเด็นข้อพิพาทที่จะต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ได้สละสิทธิเรียกร้องเงินตามฟ้องของโจทก์หรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย โจทก์ลาออกจากงานเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๓๐ จำเลยไม่จ่ายเงินให้ตามสิทธิของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินชดเชยจำนวน ๑๖,๓๓๐ บาท และค่าล่วงเวลาจำนวน ๕๙,๖๔๐ บาทให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินตามฟ้อง โจทก์ฟ้องคดีไม่สุจริต ทั้งนี้ก่อนออกจากงานบริษัทจำเลยได้เมตตาต่อโจทก์โดยมอบเงินจำนวน ๑๙,๐๐๐ บาทและผลประโยชน์อื่น ๆ แก่โจทก์ โดยที่จำเลยไม่จำเป็นต้องให้โจทก์แต่ประการใดแต่ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมเท่านั้น ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ตามเอกสารหมาย ล.๘ ปรากฏว่าเมื่อโจทก์ลาออกจากงานนั้น โจทก์ได้รับเงินจำนวนหนึ่งจากจำเลยไปแล้วโดยบันทึกไว้ในเอกสารดังกล่าวว่า โจทก์สละข้อเรียกร้องทั้งหมดที่โจทก์มีต่อบริษัทจำเลยทั้งสิ้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินใด ๆ จากจำเลยอีก พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า กรณีที่จำเลยยื่นคำให้การเป็นหนังสือ หากจำเลยประสงค์จะให้ศาลวินิจฉัยปัญหาข้อใดอันเป็นคุณแก่จำเลย จำเลยต้องกล่าวข้อเท็จจริงเป็นข้อต่อสู้ให้ชัดแจ้งไว้ในคำให้การตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๗ ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๑ ทั้งนี้เพื่อให้มีประเด็นข้อพิพาทไว้คำให้การของจำเลยตอนท้ายที่ว่า “โจทก์ฟ้องคดีโดยไม่สุจริต ทั้งนี้ก่อนออกจากบริษัทจำเลยโดยความเมตตาต่อโจทก์ ได้มอบเงิน ๑๙,๐๐๐ บาท และผลประโยชน์อื่น ๆ แก่โจทก์โดยจำเลยมิจำเป็นต้องให้โจทก์แต่ประการใด แต่ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม” นั้น เป็นกรณีที่จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ใช้สิทธิฟ้องคดีโดยไม่สุจริต เพราะจำเลยได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งและผลประโยชน์อื่นให้แก่โจทก์ไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่จำเลยไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายตามกฎหมาย ไม่มีข้อความใดที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ให้การต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินตามฟ้องจากจำเลยเพราะโจทก์ได้สละข้อเรียกร้องไปแล้ว ฉะนั้นคดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทที่จะต้องวินิจฉัยว่า โจทก์ได้สละสิทธิเรียกร้องเงินตามฟ้องของโจทก์หรือไม่ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเพราะโจทก์ได้สละสิทธิเรียกร้องไว้ตาม เอกสารหมาย ล.๘ นั้น เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยตามประเด็นข้อพิพาทที่กำหนดไว้ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share