แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 344 พนักงานอัยการไม่มีอำนาจที่จะขอให้จำเลยใช้ค่าแรงงานหรือค่าจ้างที่จำเลยยังไม่จ่ายแก่ผู้เสียหายตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 43 เพราะค่าแรงงานหรือค่าจ้างไม่ใช่ทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไป เนื่องจากการกระทำผิดของจำเลย แต่เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายชอบที่จะไปฟ้องบังคับให้จำเลยชดใช้ในทางแพ่ง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๔ และให้จำเลยจ่ายค่าแรงงานแก่ผู้เสียหายทั้ง ๑๒ คน เป็นเงิน ๒๙,๑๐๐ บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๓๔๔ จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา ๗๘ จำคุก๘ เดือน ให้ยกคำขอให้จำเลยจ่ายค่าแรงงานแก่ผู้เสียหาย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในชั้นนี้คงมีปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาเพียงว่าโจทก์มีอำนาจเรียกราคาค่าแรงงานแทนผู้เสียหายทั้ง ๑๒ คน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๓ หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ค่าแรงงานหรือค่าจ้างไม่ใช่ทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลย แต่เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายชอบที่จะไปฟ้องบังคับให้จำเลยชดใช้ในทางแพ่งต่างหาก พนักงานอัยการซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนี้จึงไม่มีอำนาจที่จะขอให้จำเลยใช้ค่าแรงงานหรือค่าจ้างที่จำเลยยังไม่จ่ายแก่ผู้เสียหายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๓
พิพากษายืน.