คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1928/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาจะโอนสิทธิการเช่าตึกแถวให้จำเลยเมื่อจำเลยชำระเงินค่าสิทธิการเช่างวดสุดท้ายแล้ว แต่จำเลยไม่ชำระเงินงวดสุดท้ายโจทก์จึงบอกเลิกสัญญาซึ่งก็ต้องให้จำเลยกลับคืนสู่ฐานะเดิมและต้องคืนเงินที่รับไว้แล้วให้แก่จำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิริบเงินจำนวนดังกล่าว จำเลยมีสิทธิฟ้องแย้งเรียกเงินจำนวนดังกล่าวได้
ค่าเสียหายที่โจทก์ขอให้นำมาหักจากเงินที่ต้องคืนให้แก่จำเลยเป็นค่าเสียหายที่โจทก์มิได้ฟ้องเรียกจากจำเลยในคดีนี้ และมิได้ให้การแก้ฟ้องแย้งในเรื่องค่าเสียหายดังกล่าวและขอหักไว้ จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าตึกแถวพิพาทจากนายเจริญ ลี้สำราญและทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกแถวให้จำเลยในราคา ๒๒๐,๐๐๐ บาท โดยแบ่งชำระเป็น ๓ งวด งวดที่ ๑ เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท งวดที่ ๒ เป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท งวดที่ ๓ เป็นเงิน ๗๐,๐๐๐ บาท จำเลยชำระเงินให้โจทก์ ๒ งวดและเข้าอยู่ในตึกแถวพิพาทแล้ว แต่ไม่ชำระเงินงวดที่ ๓ โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาให้จำเลยและบริวารออกจากตึกแถวพิพาท จำเลยไม่ยอมออกและไม่ชำระเงินงวดที่ ๓ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากตึกแถวพิพาท และให้ใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกไปจากตึกแถวพิพาท
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลเรียกนายเจริญ ลี้สำราญ เข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา จำเลยชำระหนี้เป็นเช็คให้โจทก์แล้วแต่โจทก์ไม่ยอมรับ จำเลยไม่ผิดสัญญาโจทก์ไม่มีสิทธิริบเงินที่จำเลยชำระไปแล้ว ต้องคืนเงินดังกล่าวแก่จำเลยโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายเพียงเดือนละ ๖๐ บาท ขอให้โจทก์คืนเงิน ๑๕๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย
โจทก์และโจทก์ร่วมให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ร่วมเป็นเจ้าของที่ดินและตึกแถวพิพาท โจทก์โอนสิทธิการเช่าให้แก่จำเลยโดยโจทก์ร่วมยินยอม จำเลยไม่ชำระเงินภายในกำหนดเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาและริบเงินที่จำเลยชำระแล้วได้ จำเลยไม่มีสิทธิฟ้องแย้งเรียกเงินคืนขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากตึกแถวพิพาท ให้ใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากตึกแถวพิพาท ให้โจทก์ใช้เงิน๑๕๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียม โดยกำหนดค่าทนายความ ๒,๐๐๐ บาทแทนโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า เมื่อฟังว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยโดยชอบแล้วถึงแม้ว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๙๑ จะบัญญัติไว้ว่าต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งคืนสู่ฐานะเดิมก็จริง แต่จำเลยไม่มีสิทธิฟ้องแย้งเรียกเงินจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาทคืนพร้อมดอกเบี้ยจากโจทก์ได้ เพราะตึกแถวพิพาทตอนให้จำเลยเข้าอยู่อาศัยยังอยู่ในสภาพดีมาก แต่ขณะนี้มีสภาพเก่ามากเพราะจำเลยและบริวารไม่ดูแลรักษาอย่างวิญญูชนทั่วไป และทางราชการได้มีพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินซึ่งอยู่ใกล้ตึกแถวพิพาทนี้อันทำให้ราคาตึกแถวพิพาทลดลง หากจะโอนสิทธิการเช่าต่อให้บุคคลอื่นก็จะไม่ได้ในราคา ๒๒๐,๐๐๐ บาทโจทก์เสียหายมาก ขณะโจทก์เข้าครอบครองตึกแถวพิพาทพบว่ามีการทำลายบันไดภายใน ท่อประปา ตู้กระจก และจำเลยได้ค้างค่าน้ำประปาค่ากระแสไฟฟ้า รวมแล้วประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาทเศษ ซึ่งโจทก์ได้ฟ้องจำเลย จำเลยยอมใช้ให้ และที่ฎีกาว่าโจทก์ต้องเสียเงินเป็นค่าโอนสิทธิการเช่าและต่อเวลาเช่าให้โจทก์ร่วมเป็นเงิน ๓๕,๐๐๐ บาท ตามเอกสารหมาย จ.๗ ซึ่งโจทก์ได้เอาจากเงินจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ที่รับจากจำเลยชำระให้โจทก์ร่วม โจทก์ต้องมีสิทธิหักเงิน ๓๕,๐๐๐ บาทและค่าเสียหายตามคำพิพากษาออกจากเงินจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ ด้วย ซึ่งมีจำนวนพอ ๆ กัน โจทก์จึงมีสิทธิริบเงินจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ได้ขอพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิรับเงินจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาทของจำเลยได้นั้น เห็นว่าเมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญา ก็ต้องให้จำเลยกลับคืนสู่ฐานะเดิมโจทก์ต้องคืนเงินจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาทให้แก่จำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิริบเงินจำนวนดังกล่าว จำเลยจึงมีสิทธิฟ้องแย้งเรียกเงินจำนวนดังกล่าวได้ ส่วนความเสียหายที่โจทก์กล่าวมาในฎีกาและขอให้ศาลนำค่าเสียหายตามที่อ้างมาหักจากเงินจำนวนดังกล่าวนั้น เห็นว่าเป็นค่าเสียหายที่โจทก์มิได้ฟ้องเรียกจากจำเลยในคดีนี้และโจทก์มิได้ให้การแก้ฟ้องแย้งของจำเลยในเรื่องค่าเสียหายดังกล่าวและขอหักไว้ ค่าเสียหายที่โจทก์อ้างว่าถ้าจะให้เช่าตึกแถวพิพาทจะได้ค่าเช่าเดือนละไม่ต่ำกว่า ๓,๐๐๐ บาท ศาลก็พิพากษาให้จำเลยชดใช้ให้จนกว่าจำเลยจะส่งมอบตึกแถวให้แล้ว ความเสียหายตามที่โจทก์อ้างมาในฎีกาจึงเป็นคนละเรื่องกัน มิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน.

Share