คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1767/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ช่วยตรวจรางวัล แล้วสลากกินแบ่งของโจทก์ซึ่งถูกรางวัลได้หายไป ปรากฏภายหลังว่า จำเลยที่ 3 นำสลากกินแบ่งดังกล่าวไปขายให้แก่จำเลยที่ 5 ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่สี่แยกคอกวัวซึ่งเป็นที่ชุมนุมแห่งการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ปัจจุบันนี้เป็นทั้งที่ซื้อขายสลากกินแบ่งและรับซื้อสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลโดยทั่วไป และจำเลยที่ 5 ได้รับซื้อไว้โดยเปิดเผย ทั้งไม่ทราบว่าสลากกินแบ่งของโจทก์ที่หายไปและนำไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยตนเองแล้ว ถือได้ว่าจำเลยที่ 5 ซื้อสลากกินแบ่งโดยสุจริตในท้องตลาด จำเลยที่ 5 ไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์และไม่จำต้องคืนเงินที่รับมาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๒๓ จำนวน ๒ ฉบับ ต่อมาโจทก์มอบสลากกินแบ่งให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ช่วยตรวจรางวัลแล้วสลากกินแบ่งของโจทก์หายไป ทราบภายหลังว่าสลากกินแบ่งดังกล่าวถูกรางวัลที่ ๓ ต่อมาจำเลยที่ ๓ นำสลากกินแบ่ง ๑ ฉบับมาขายให้แก่จำเลยที่ ๕ ซึ่งทำการซื้อขายสลากกินแบ่งอยู่ที่สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ ๕ รับซื้อไว้และได้นำสลากกินแบ่งไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว การกระทำของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ เป็นการร่วมกันละเมิดต่อโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาว่าสลากกินแบ่งฉบับดังกล่าวเป็นของโจทก์ ให้จำเลยร่วมกันใช้เงินจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๕ ให้การปฏิเสธขอให้ยกฟ้องส่วนจำเลยที่ ๓ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ให้จำเลยที่ ๓ ชำระเงินจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีให้โจทก์ ยกฟ้องจำเลยอื่น
โจทก์อุทธรณ์ขอให้จำเลยที่ ๕ ชำระเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทตามฟ้องด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๕ ร่วมกับจำเลยที่ ๓ ชำระเงินจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๕ ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยที่ ๕ โดยตลอดแล้วข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้เป็นยุติว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลหมวด ข. หมายเลข ๑๓๗๕๐๘๘ ของโจทก์หายไป จำเลยที่ ๓ นำสลากกินแบ่งฉบับดังกล่าวมาขายให้แก่จำเลยที่ ๕ ที่ร้านของจำเลยที่ ๕ ซึ่งทำการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล อยู่ที่สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ ๕ รับซื้อไว้และได้นำสลากกินแบ่งดังกล่าวไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว ปัญหามีว่าจำเลยที่ ๕ ทำละเมิดต่อโจทก์และต้องคืนเงินที่รับมาแก่โจทก์หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ ๓ นำสลากกินแบ่งรัฐบาลหมวด ข. หมายเลข ๑๓๗๕๐๘๘ ที่พิพาทมาขายให้จำเลยที่ ๕ โดยไม่รู้จักกันมาก่อน จำเลยที่ ๕ รับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่พิพาทไว้โดยเปิดเผยโดยสุจริตทั้งไม่ทราบว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ที่หายไปและนำสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยตนเองตามปกติธุระของผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๕ รับซื้อสลากกินแบ่งที่พิพาทไว้โดยทุจริต จำเลยที่ ๕ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวในที่ชุมนุมแห่งการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่สี่แยกคอกวัวซึ่งปัจจุบันนี้เป็นทั้งที่ซื้อขายสลากกินแบ่งและรับซื้อสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลโดยทั่วไปด้วยถือได้ว่าจำเลยที่ ๕ ซื้อสลากกินแบ่งที่พิพาทจากท้องตลาด เมื่อพฤติการณ์เป็นดังนี้คดียังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ ๕ กระทำละเมิดต่อโจทก์ และไม่จำต้องคืนเงินที่รับมาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๓๓๒ จำเลยที่ ๕ ไม่ต้องร่วมกับจำเลยที่ ๓ รับผิดต่อโจทก์ ศาลฎีกาเห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์บางส่วนและไม่เห็นด้วยในปัญหานี้ ฎีกาจำเลยที่ ๕ ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ ๕ ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๕ ทั้งสามศาลให้เป็นพับ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share