คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2543/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องที่ขอให้ศาลพิพากษาว่า การประเมินภาษีโรงเรือนและคำชี้ขาดของจำเลยให้โจทก์ชำระค่าภาษีโรงเรือนเป็นเงิน 5,400 บาท ไม่ถูกต้องก็คือให้ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามจำนวนที่จำเลยประเมินและมีคำชี้ขาด โจทก์จึงมีคำขอให้จำเลยคืนเงินภาษีโรงเรือนที่โจทก์อ้างว่า จำเลยคิดให้โจทก์เสียเกินไปให้แก่โจทก์ด้วย หากศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ทุกข์ของโจทก์ย่อมปลดเปลื้องไปตามจำนวนเงินที่โจทก์ไม่ต้องชำระหนี้และได้รับเงินที่เสียเกินไปนั้นคืน ฟ้องของโจทก์จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามตาราง 1 ข้อ 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า การประเมินภาษีโรงเรือนของจำเลยที่ ๑ และคำชี้ขาดของจำเลยที่ ๒ ที่ให้โจทก์ชำระค่าภาษีโรงเรือนเป็นเงิน ๕,๔๐๐ บาท ไม่ถูกต้อง ให้จำเลยทั้งสองคืนเงินค่าภาษีโรงเรือนจำนวน ๓,๕๒๕ บาท ที่คิดเกินให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่าเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ ประเมินภาษีโรงเรือนของโจทก์ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ ๒ ถึงแก่กรรม ศาลสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ ๒
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของโจทก์ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๔ พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า ที่โจทก์ฎีกาว่าคดีนี้เป็นคดีฟ้องของให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ อุทธรณ์ของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์นั้น เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาของโจทก์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำขอของโจทก์ที่ให้ศาลพิพากษาว่า การประเมินภาษีโรงเรือนและคำชี้ขาดของจำเลยทั้งสองให้โจทก์ชำระค่าภาษีโรงเรือนเป็นเงิน ๕,๔๐๐ บาท ไม่ถูกต้อง ก็คือให้ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามจำนวนที่จำเลยประเมินและมีคำชี้ขาด โจทก์จึงมีคำขอให้จำเลยคืนเงินภาษีโรงเรือนที่โจทก์อ้างว่าจำเลยคิดให้โจทก์เสียเกินไปให้แก่โจทก์ด้วย หากศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีทุกข์ของโจทก์ย่อมปลดเปลื้องไปตามจำนวนเงินที่โจทก์ไม่ต้องชำระหนี้และได้รับเงินที่เสียเกินไปนั้นคืน ฟ้องของโจทก์จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามตาราง ๑ ข้อ ๑(๑) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เหตุนี้เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท และอุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๔ ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัยนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share