คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลแรงงานกลางพิพากษาว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ให้จำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างในขณะที่เลิกจ้าง เดิมโจทก์ทำงานตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชีของบริษัทจำเลยที่เมืองพัทยา ทำงานเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานตำแหน่งเดิม แต่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ สำนักงานที่กรุงเทพมหานครโดยกำหนดให้โจทก์ปฏิบัติงานตามคำสั่งของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารของบริษัทจำเลย โดยให้โจทก์มีหน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีตามที่ได้รับมอบหมายเป็นครั้งคราว เป็นเรื่องที่นายจ้างมอบหมายงานที่เห็นสมควรให้ทำจำเลยมีอำนาจทำได้ ส่วนสถานที่ทำงาน เมื่อโจทก์มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานครย่อมเป็นการสะดวกแก่โจทก์ยิ่งขึ้น โจทก์ก็มิได้อ้างว่าเป็นการเพิ่มภาระ จำเลยจึงมีคำสั่งได้เช่นกัน แต่การกำหนดให้โจทก์ทำงานในวันศุกร์และวันเสาร์ โดยที่ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์โจทก์มีภาระที่อื่นประจำอยู่แล้วจึงไม่ถูกต้องตามสภาพการจ้างเดิมและก่อภาระหน้าที่ให้แก่โจทก์ จำเลยต้องให้โจทก์ทำงานเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์

ย่อยาว

มูลกรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยให้รับโจทก์เข้าทำงานกันชดใช้ค่าเสียหายศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม พิพากษาให้จำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างในขณะที่เลิกจ้าง ศาลฎีกาพิพากษายืน คดีถึงที่สุด ต่อมาวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๒๗ โจทก์ยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๒๗ โจทก์ได้ไปรายงานตัวต่อจำเลย แล้วจำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชีเช่นเดิม แต่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ สำนักงานเลขที่ ๑๗๕ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๒๗ เป็นต้นไป โดยให้ได้รับเงินเดือนในอัตราเดือนละ ๖,๐๐๐ บาท และให้โจทก์ปฏิบัติงานตามคำสั่งของนายประเสริฐ ฟูตระกูล หรือ นายเอ.เอ็กซ์ฟาสสบินต์ หรือนางพงา วรรธนะกุล โดยมีหน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีของบริษัทตามที่บุคคลดังกล่าวจะมอบหมายให้เป็นครั้งคราว โจทก์เห็นว่าคำสั่งของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นไปตามคำพิพากษาเพราะก่อนเลิกจ้างโจทก์มีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมฝ่ายการบัญชีของบริษัทกิจการด้านบัญชีทั้งหมดจะต้องผ่านการควบคุมดูแลและตรวจสอบของโจทก์มิใช่หน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำตามที่บุคคลใดมอบหมาย โจทก์ได้รับเงินเดือนในอัตราเดือนละ ๖,๐๐๐ บาทและเงินสวัสดิการหรือเบี้ยเลี้ยงเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท ทำงานเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ที่โรงแรมโรแยล คลิฟ บีช โฮเต็ล ของจำเลยที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เท่านั้น ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษา
จำเลยยื่นคำคัดค้านว่า นายจ้างย่อมมีอำนาจโดยชอบที่จะงดมอบหมายงานให้แก่ลูกจ้างได้ เพียงแต่นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตลอดเวลาที่จ้างกันเท่านั้น การที่จำเลยมอบหมายงานเฉพาะงานตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีแก่โจทก์ จึงเป็นสิทธิโดยชอบของจำเลยที่กระทำได้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทจำเลย โจทก์ได้รับเงินเดือนในอัตราเดือนละ ๖,๐๐๐ บาท ส่วนเงินอีก ๒,๐๐๐ บาท เป็นค่าพาหนะที่โจทก์จะต้องเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปปฏิบัติงานที่พัทยา เมื่อจำเลยให้โจทก์ปฏิบัติงานที่กรุงเทพมหานครแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะรับค่าพาหนะ อย่างไรก็ดีเพื่อตัดปัญหาจำเลยยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวน ๒,๐๐๐ บาท เพิ่มให้แก่โจทก์ จำเลยยังมิได้กำหนดวันทำงานตามปกติให้แก่โจทก์ แต่จำเลยพร้อมที่จะให้โจทก์เป็นผู้เลือกวันทำงานในสองวันวันใดของสัปดาห์ได้
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์มีตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชีเช่นเดิม เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์แล้ว ส่วนเรื่องเงินเดือนเมื่อจำเลยแถลงว่ายินดีจะจ่ายให้อีกเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท รวมเป็น ๘,๐๐๐ บาทแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยมีคำสั่งให้จำเลยจ่ายเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง สวัสดิการหรือค่าพาหนะรวมเดือนละ ๘,๐๐๐ บาทให้โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า เดิมโจทก์ทำงานในตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชี ทำงานสัปดาห์ละ ๒ วัน เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่โรงแรมโรแยลคลิฟ บีช โฮเต็ล เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชีทำงานสัปดาห์ละ ๒ วัน เช่นเดิม แต่ให้ปฏิบัติหน้าที่ ณ สำนักงานบริษัทจำเลยเลขที่ ๑๗๕ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ กรุงเทพมหานครโดยทำงานในวันศุกร์และวันเสาร์ เพราะที่สำนักงานดังกล่าวทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์ และจำเลยกำหนดให้โจทก์ปฏิบัติงานตามคำสั่งของนายประเสริฐ ฟูตระกูล ประธานกรรมการ นายเอ.เอ็กซ์ฟาสส์บินต์ ผู้จัดการใหญ่ หรือนางพงา วรรธนะกุล รองผู้จัดการใหญ่ โดยให้มีหน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีของบริษัทตามที่บุคคลดังกล่าวจะมอบหมายให้เป็นครั้งคราว เห็นว่า จำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชีอันเป็นตำแหน่งเดิมแล้ว การที่จำเลยกำหนดให้โจทก์ปฏิบัติงานตามคำสั่งของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารบริษัทจำเลยคนใดคนหนึ่งในจำนวนสามคนและให้โจทก์มีหน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีของบริษัทตามที่บุคคลดังกล่าวมอบหมายเป็นครั้งคราว เป็นเรื่องจำเลยในฐานะนายจ้างมอบหมายงานเท่าที่เห็นสมควรให้โจทก์ทำ ซึ่งจำเลยมีอำนาจที่จะทำได้ โดยเฉพาะเมื่อโจทก์กับคณะกรรมการของบริษัทจำเลยต่อสู้คดีความกันอยู่หลายคดี ย่อมชอบที่จำเลยจะใช้อำนาจนั้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทจำเลย ที่โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของบริษัท เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องควบคุมดูแลผลประโยชน์ของบริษัทอย่างดีที่สุดนั้น เป็นเรื่องอำนาจของโจทก์ในฐานะผู้ถือหุ้นเป็นคนละฐานะกัน จะนำมาอ้างมิได้ ส่วนในเรื่องสถานที่ทำงาน เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร การที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ ณ สำนักงานบริษัทจำเลยเลขที่ ๑๗๕ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ กรุงเทพมหานคร ย่อมเป็นความสะดวกแก่โจทก์ยิ่งขึ้น โจทก์ก็มิได้อ้างว่าเป็นการเพิ่มภาระให้แก่โจทก์แต่อย่างใด จำเลยจึงมีคำสั่งในข้อนี้ได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีปรากฏว่าเดิมโจทก์ทำงานเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ และโจทก์อุทธรณ์อ้างว่าในวันจันทร์ถึงวันศุกร์โจทก์มีภาระที่ประจำอยู่แล้ว ดังนี้ การที่จำเลยกำหนดให้โจทก์ทำงานในวันศุกร์และวันเสาร์จึงไม่ถูกต้องตามสภาพการจ้างเดิมและต่อภาระหน้าที่ให้แก่โจทก์ จำเลยจะอ้างว่าสำนักงานของจำเลยทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์ จึงต้องเปลี่ยนให้โจทก์ทำงานในวันศุกร์และวันเสาร์หาได้ไม่
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยให้โจทก์ทำงานเฉพาะในวันเสาร์และวันอาทิตย์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลแรงงานกลาง

Share