แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยและขอให้นับโทษต่อจากคดีดำคดีอื่น ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้และในคดีดำคดีอื่นในวันเดียวกัน ถือได้ว่าความปรากฏต่อศาลและคู่ความชัดแจ้งแล้วว่าคดีดำคดีอื่นนั้นศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วโดยไม่จำต้องให้โจทก์แถลงต่อศาลซ้ำอีก ศาลย่อมพิพากษาให้นับโทษต่อกันได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑, ๓๔๓, ๘๓ และจำเลยเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๒๖๖๙/๒๕๒๖, ๒๖๗๐/๒๕๒๖ และ ๒๖๗๑/๒๕๒๖ ขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีทั้งสามสำนวนดังกล่าวด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นคนเดียวกันกับจำเลยในคดีทั้งสามสำนวนดังกล่าว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๓, ๘๓ ให้จำคุก ๔ ปี และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๒๖๖๙/๒๕๒๖, ๒๖๗๐/๒๕๒๖ และ ๒๖๗๑/๒๕๒๖ ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เว้นแต่ไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาอีกสามสำนวนของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ปัญหาในชั้นฎีกามีว่าจะนับโทษจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอีกสามสำนวนของศาลชั้นต้นได้หรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วปรากฏว่าตามสำนวนคดีนี้เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๓๓๓๖/๒๕๒๖ ของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นหมายเลขคดีแดงที่ต่อจากคดีอีกสามสำนวนดังกล่าว และตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีนี้ก็ให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอีกสามสำนวนที่โจทก์ขอมาท้ายฟ้อง เพียงแต่ระบุหมายเลขคดีดำซึ่งจำเลยก็มิได้โต้เถียงว่าไม่ใช่หมายเลขคดีแดงดังที่โจทก์อ้างมาในฎีกาตามพฤติการณ์จึงเห็นได้ว่าศาลชั้นต้นได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้กับในคดีอีกสามสำนวนนั้นติดต่อกันไป ฉะนั้น เมื่อศาลชั้นต้นจะอ่านคำพิพากษาคดีนี้ โจทก์ย่อมไม่อาจแถลงต่อศาลชั้นต้นได้ว่าคดีอีกสามสำนวนนั้นมีหมายเลขคดีแดงที่เท่าใด ถือได้ว่าความปรากฏต่อศาลและคู่ความชัดแจ้งแล้วว่าคดีอีกสามสำนวนนั้น ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วโดยไม่จำต้องให้โจทก์แถลงต่อศาลซ้ำอีก ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นับโทษจำเลยติดต่อกันจึงชอบแล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๓๒๙/๒๕๒๖, ๓๓๓๐/๒๕๒๖ และ ๓๓๓๑/๒๕๒๖ ของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์