คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สิ่งพิมพ์ตามกฎหมายว่าด้วยการพิมพ์ แผ่นประกาศ หรือสิ่งอื่นใดซึ่งใช้ในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง แม้จะเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือพรรคการเมืองใดก็ตาม หากมิได้มีอยู่ภายในที่เลือกตั้งซึ่งเป็นสถานที่ที่กำหนดให้ทำการลงคะแนนเลือกตั้งรวมถึงบริเวณที่กำหนดขึ้นโดยรอบที่เลือกตั้ง เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งก็ไม่มีอำนาจทำลาย ปกปิด หรือนำออกไปตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 เมื่อคำฟ้องของโจทก์อ้างว่าแท็งก์น้ำของทางราชการซึ่งระบุชื่อ ป. และ ส.ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นตั้งอยู่ทั่วไปภายในเขตเลือกตั้ง มิใช่อยู่ภายในที่เลือกตั้ง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์
การโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 10 วรรคสอง ผู้ที่มีหน้าที่ทำลาย ปกปิด ลบ หรือล้างข้อความ ภาพ หรือรูปรอยดังกล่าวคือเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2503 มาตรา 3 ซึ่งให้นิยามไว้ว่า ในเขตเทศบาลหมายความว่านายกเทศมนตรีในเขตสุขาภิบาลหมายความว่าประธานกรรมการสุขาภิบาล และในท้องที่นอกเขตเทศบาลหรือสุขาภิบาลหมายความว่านายอำเภอ จำเลยไม่ใช่นายกเทศมนตรี ประธานกรรมการสุขาภิบาล หรือนายอำเภอ ย่อมไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติการอย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๒๒ ทราบว่ามีการกระทำอันเป็นคุณหรือโทษแก่โจทก์และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต ๒ ของจังหวัดศรีสะเกษ โดยภายในเขตเลือกตั้งเขต ๒ ของจังหวัดศรีสะเกษมีแท็งก์น้ำ (ถังน้ำ) ของทางราชการตั้งอยู่ทั่วไป ซึ่งมีชื่อ ป. และ ส. ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษเขต ๒ อันทำให้ราษฎรหรือบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งเขต ๒ ของจังหวัดศรีสะเกษเข้าใจว่าแท้งก์น้ำเป็นของ ป. และ ส.เป็นเหตุชักจูงใจในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและส่งผลให้เป็นคุณแก่ ป.และส. แต่เป็นโทษแก่โจทก์และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอื่นในเขต ๒ ของจังหวัดศรีสะเกษ จำเลยทั้งสามมีอำนาจที่จะทำลาย ปกปิด หรือนำออกไปเสียให้พ้นซึ่งสิ่งอันเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งดังกล่าว แต่เมื่อโจทก์แจ้งให้ทราบแล้วจำเลยทั้งสามหาได้กระทำไม่ เป็นการจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้โจทก์และผู้อื่นได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗, ๘๓
ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สิ่งพิมพ์ตามกฎหมายว่าด้วยการพิมพ์ แผ่นประกาศหรือสิ่งอื่นใดซึ่งในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งนั้น แม้จะเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือพรรคการเมืองใดก็ตาม หากมิได้มีอยู่ภายในที่เลือกตั้งซึ่งเป็นสถานที่ที่กำหนดให้ทำการลงคะแนนเลือกตั้งรวมถึงบริเวณที่กำหนดขึ้นโดยรอบที่เลือกตั้ง เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งก็ไม่มีอำนาจและหน้าที่ทำลาย ปกปิดหรือนำออกไปตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๑ ตามฟ้องปรากฏว่าแท็งก์น้ำตั้งอยู่ทั่วไปในเขตเลือกตั้ง หาได้อ้างว่ามีอยู่ภายในที่เลือกตั้งแต่อย่างใด จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใด
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐ วรรคสาม ซึ่งแก้ไขแล้วบัญญัติว่า ในกรณีที่มีการโฆษราหาเสียงเลือกตั้งอันเป็นการฝ่าฝืนวรรคสอง ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองมีอำนาจและหน้าที่ทำลาย ปกปิด ลบ หรือล้างข้อความ ภาพ หรือรูปรอยดังกล่าว แต่ในกรณีที่มิใช่ทรัพย์สินของทางราชการ เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะมีอำนาจดังกล่าวเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของหรือผู้ครอบครอง ดังนั้นแม้จะมีการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา ๑๐ วรรคสอง ผู้ที่มีอำนาจและหน้าที่ทำลาย ปกปิด ลบ หรือล้างข้อความ ภาพ หรือรูปรอยดังกล่าวก็คือเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๓ ซึ่งให้นิยามไว้ว่า ในเขตเทศบาลหมายความว่านายกเทศมนตรี ในเขตสุขาภิบาลหมายความว่าประธานกรรมการสุขาภิบาล และท้องที่ที่อยู่นอกเขตเทศบาลหรือสุขาภิบาลหมายความว่านายอำเภอ จำเลยทั้งสามิใช่นายกเทศมนตรี ประธานกรรมการสุขาภิบาลหรือนายอำเภอ ย่อมไม่มีอำนาจและหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติการแต่อย่างใด ตามฟ้องโจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสามจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ทำลาย ปกปิด หรือนำออกไปเสียให้พ้นซึ่งการกระทำอันเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หาได้อ้างว่าจำเลยทั้งสามละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยการไม่สั่งให้เจ้าพนักงานผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมายไม่ฎีกาของโจทก์ดังกล่าวจึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลล่างจึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share