แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รั้วที่จำเลยที่ 1 สร้างเป็นกำแพงทึบมีความสูงถึง 2.70 เมตรส่วนอีกสามด้านไม่ได้สร้างเช่นนั้น เมื่อพิจารณาถึงสภาพและตำแหน่งที่ตั้งอยู่ของบ้านโจทก์ซึ่งปลูกค่อนมาทางแนวเขตที่ดินด้านทิศใต้ติดต่อกับที่ดินที่จำเลยที่ 1 สร้างรั้วกำแพงทึบโดยชายคาชั้นล่างของบ้านโจทก์ด้านใกล้แนวเขตที่ดินมีความสูงจากพื้นดินระหว่าง 3 ถึง 3.10 เมตร และบ้านโจทก์ไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านชุมชนกลางเมืองประกอบกันแล้ว เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้สร้างรั้วกำแพงทึบสูงเกินสมควร เป็นเหตุให้บังแสงสว่างและทางลมที่จะเข้าไปในห้องชั้นล่างของบ้านโจทก์เป็นบางส่วน ย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ข้างเคียง หรืออย่างน้อยก็ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญเกินกว่าที่ควรคาดคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเกิดขึ้นตามปกติ โจทก์จึงมีสิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังให้ความเสียหายหรือความเดือดร้อนรำคาญนั้นให้สิ้นไปได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 แม้ว่ารั้วที่จำเลยที่ 1สร้างนั้นจะได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้วก็ตาม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ อาศัยสิทธิของจำเลยที่ ๒ ก่อสร้างรั้วอิฐทึบติดกับรั้วลวดหนามด้านทิศใต้ของที่ดินโจทก์ สูงจากพื้นดินประมาณ ๒.๘๕ ถึง ๒.๙๕ เมตรเกือบชนชายคาบ้านชั้นล่างของโจทก์ มีช่องห่างจากกันไม่เกิน ๕๐ เซนติเมตร ปิดกั้นแสงสว่าง แสงแดด ทางลมและอากาศที่เคยผ่านจากด้านทิศใต้เข้ามายังบ้านชั้นล่างของโจทก์ตามปกติโดยสิ้นเชิง ทำให้โจทก์และบริวารได้รับความเดือดร้อน รั้วที่ล้อมที่ดินจำเลยอีกสามด้าน จำเลยที่ ๑ มิได้สร้างขึ้นเช่นนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตซึ่งมีแต่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่โจทก์ เป็นการเกินสมควรกว่าปกติและเหตุอันควรในเมื่อนำสภาพและตำแหน่งที่ตั้งของบ้านและที่ดินของโจทก์จำเลยขึ้นมาพิจารณา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายขอบังคับให้จำเลยทั้งสองรื้อรั้วทึบที่ก่อสร้าง ห้ามจำเลยและบริวารกระทำการใด ๆ อันจะทำให้สิทธิและผลประโยชน์ของโจทก์ที่เคยมีอยู่เดิมลดน้อยลงในอนาคตด้วย ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายวันละ ๒๐๐ บาทนับจากวันถัดวันฟ้องจนกว่าจะรื้อรั้วเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินและบ้านที่ปลูกอยู่อาศัย จึงไม่มีสิทธิฟ้อง จำเลยได้ก่อสร้างรั้วอิฐสูงจากพื้นดิน ๒ เมตรเศษยาวตลอดแนวเขตที่ดินที่ติดกับที่ดินของโจทก์ ซึ่งจำเลยยังจะต้องก่อสร้างรั้วอิฐเช่นนี้ตามแนวเขตที่ดินอีกสามด้านด้วย รั้วที่จำเลยก่อสร้างขึ้นแล้วอยู่ห่างบ้านโจทก์ด้านหลังประมาณ ๒ เมตร ด้านบนของรั้วมิได้สูงมากจนเกือบจดชายคาบ้านล่างของโจทก์ไม่ได้ปิดกั้นทางลม แสงแดด แสงสว่างและอากาศยังเข้ามาที่บ้านชั้นล่างของโจทก์ตามปกติ จำเลยใช้สิทธิโดยสุจริตพอสมควรกับสภาวะแวดล้อมและพฤติการณ์ในยุคขณะนี้อีกทั้งรั้วที่ก่อสร้างก็ได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้ว โจทก์กับบริวารไม่ได้รับความเสียหายเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตอันควรแต่อย่าางใดไม่ การก่อสร้างรั่วอิฐดังกล่าวเป็นการกระทำโดยมีเหตุอันควร โจทก์ควรจะคาดหมายได้อยู่ก่อนแล้วในตอนที่โจทก์จะปลูกสร้างบ้านว่าหากไม่ประสงค์จะให้มีสิ่งก่อสร้างปิดบังสายลม แสงแดด และแสงสว่าง ก็ควรจะปลูกสร้างให้ห่างจากแนวเขตของฝ่ายจำเลยให้มากกว่านี้ โจทก์สร้างบ้านอยู่ในย่านเมืองหลวง ที่ดินมีราคาแพงและมีโจรภัยชุกชุมการก่อสร้างรั้วอิฐสูงประมาณ ๒ เมตรครึ่งนี้เป็นสิ่งปกติที่ผู้อาศัยในเมืองหลวงและในย่านแขวงลาดยาว เขตบางเขน พึงกระทำกันการกระทำของจำเลยจึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ หากจะเสียหายก็ไม่เกินวันละ ๑๐ สตางค์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ รื้อรั้วกำแพงทึบตามฟ้องเฉพาะแนวบนที่มีความสูงเกินกว่า ๒ เมตร เมื่อวัดความสูงจากพื้นดินทางด้านที่ดินของโจทก์ออกตอลดแนวเขตที่ติดต่อกันที่ดินของโจทก์ คำขออื่นและฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒ ให้ยก
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่าให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เมื่อได้พิจารณาถึงสภาพรั้วที่จำเลยที่ ๑ สร้างเป็นกำแพงทึบมีความสูงถึง ๒.๗๐ เมตร โดยอีกสามด้านไม่ได้สร้างเช่นนั้นกับพิจารณาถึงสภาพและตำแหน่งที่ตั้งอยู่ของบ้านโจทก์ซึ่งปลูกค่อนมาทางแนวเขตที่ดินด้านทิศใต้ติดต่อกันโดยที่ชายคาชั้นล่างของบ้านด้านใกล้แนวเขตที่ดินมีความสูงจากพื้นดินระหว่าง ๓ เมตรถึง ๓.๑๐ เมตร และบ้านโจทก์ไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านชุมชนกลางเมืองประกอบกันแล้ว เห็นได้ว่าจำเลยที่ ๑ ได้สร้างรั้วกำแพงทึบสูงเกินสมควร เป็นเหตุให้บังแสงสว่างและทางลมที่จะเข้าไปในห้องชั้นล่างของบ้านโจทก์เป็นบางส่วน ย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ข้างเคียง หรืออย่างน้อยก็ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญเกินกว่าที่ควรคาดคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเกิดขึ้นตามปกติ แม้รั้วที่จำเลยที่ ๑ สร้างจะได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้วโดยชอบดังที่จำเลยกล่าวอ้าง ก็ไม่เป็นเหตุที่จำเลยที่ ๑ จะนำมาอ้างในกรณีเช่นนี้ได้ เพราะการก่อสร้างนี้ก่อให้เกิดความเสียหายหรือเดือดร้อนรำคาญเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายแก่โจทก์ดังกล่าวแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังให้ความเสียหายหรือความเดือดร้อนรำคาญนั้นให้สิ้นไปได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๗
พิพากษาแก้ เป็นว่าให้จำเลยที่ ๑ รื้อรั้วกำแพงทึบตามฟ้องเฉพาะแนวบนที่มีความสูงเกินกว่า ๒ เมตร โดยวัดความสูงจากพื้นดินทางด้านที่ดินของโจทก์ออกตลอดแนวเขตที่ดินที่ติดต่อกับที่ดินของโจทก์ ให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในอัตราวันละ ๓ บาทนับแต่วันถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจำเลยที่ ๑ จะรื้อรั้วกำแพงทึบออกเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.