คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3540/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องของโจทก์ในข้อ ก. และ ข. ได้กล่าวบรรยายถึงการกระทำของจำเลยทั้งสามสิบแปดโดยชัดเจนว่า จำเลยทั้งหมดบังอาจร่วมกันเล่นการพนันไฮโลว์ อันเป็นการพนันตามบัญชีก.หมายเลข 23 และร่วมกันเล่นการพนันรูเล็ตอันเป็นการพนันประเภทล้อหมุน ตามบัญชีก. หมายเลข 15 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้รับอนุญาตโดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันแต่ละประเภทดังกล่าวเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตน และจำเลยที่ 1 เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันแต่ละประเภทดังกล่าวโดยจำเลยที่ 4 ถึงที่ 38 เป็นผู้เข้าเล่น ซึ่งเป็นการกล่าวถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอที่จะให้จำเลยทั้งหมดเข้าใจข้อหาได้ดี แม้จะเป็นการกล่าวถึงการร่วมกันเล่นการพนันสองอย่างคือการพนันไฮโลว์และรูเล็ตในเวลาเดียวกัน ก็ไม่ถือเป็นการขัดแย้งกันเพราะโจทก์อาจนำสืบได้ว่า จำเลยทั้งหมดร่วมกันเล่นการพนันดังที่โจทก์ฟ้อง และจำเลยทุกคนต่างก็ให้การรับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ที่ว่านี้โดยมิได้หลงข้อต่อสู้ คำฟ้องของโจทก์ในข้อ ก. และ ข. จึงสมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว
พระราชบัญญัติการพนันฯ มาตรา 12 ได้แยกความผิดของการพนันประเภทต่างๆ ไว้ตามบัญชี ก. และบัญชี ข. โดยการพนันแต่ละประเภทดังกล่าวเป็นความผิดอยู่ในตัวเองไม่เกี่ยวข้องกัน ประกอบกับคำฟ้องของโจทก์ก็ระบุยืนยันว่าจำเลยทั้งสามสิบแปดได้กระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน การที่จำเลยทั้งสามสิบแปดร่วมกันเล่นการพนันไฮโลว์และการพนันรูเล็ตตามฟ้องของโจทก์ดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน เมื่อจำเลยทุกคนให้การรับสารภาพ ศาลต้องพิพากษาลงโทษจำเลยแต่ละคนทุกกรรมตามกระทงความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องด้วยวาจาว่า จำเลยทั้งสามสิบแปดได้กระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันกล่าวคือ
ก. เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๒๕ เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยทั้งสามสิบแปดบังอาจร่วมกันเล่นการพนันไอโลว์ อันเป็นการพนันตามบัญชี ก. หมายเลข ๒๓ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันดังกล่าวเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตน และจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ เป็นผู้เข้าเล่น
ข. เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๒๕ เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยทั้งสามสิบแปดบังอาจร่วมกันเล่นการพนันรูเล็ต อันเป็นการพนันประเภทล้อหมุน ตามบัญชี ก.หมายเลข ๑๕ ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันดังกล่าวเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตน และจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ เป็นผู้เข้าเล่น
ค. เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๕ เวลากลางคืนก่อนเที่ยงจำเลยทั้งสามสิบแปดบังอาจร่วมกันเล่นการพนันแปดเก้า อันเป็นการพนันตามบัญชี ก. หมายเลข ๕ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันนดังกล่าวเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตน และจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ เป็นผู้เข้าเล่น
เหตุทั้งหมดเกิดที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ตามวันเวลาดังกล่าวเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสามสิบแปดได้พร้อมของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๐, ๑๒, ๑๕พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ พระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ ขอริบของกลางมาตรา ๘๓ ขอริบของกลางและจ่ายสินบนนำจับแก่ผู้นำจับ
จำเลยทั้งสามสิบแปดให้การรับสารภาพตลอดข้อหา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามสิบแปดมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๐, ๑๒, ๑๕ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๗)พ.ศ. ๒๕๐๑๔ มาตรา ๓ จำเลยทุกคนรับสารภาพลดโทษให้ไม่เกินกึ่งหนึ่งแล้วข้อหาเล่นการพนันไฮโลว์ จำคุกจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นคนละ ๑ เดือน และปรับคนละ ๑,๕๐๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ๑ เดือน และปรับ ๑,๕๐๐ บาท จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ ปรับคนละ ๗๕๐ บาทข้อหาเล่นการพนันรูเล็ต จำคุกจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นคนละ๑ เดือน ๑๕ วัน และปรับคนละ ๒,๐๐๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ๑ เดือน ๑๕ วัน และปรับ ๒,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ ปรับคนละ ๑,๐๐๐ บาทข้อหาเล่นการพนันแปดเก้าจำคุกจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นคนละ๑ เดือน ๑๕ วันและปรับคนละ ๒,๐๐๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้๑ เดือน ๑๕ วัน และปรับ ๒,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ ปรับคนละ ๑,๐๐๐ บาทรวมจำคุกจำเลยที่ ๑ หกกระทง มีกำหนด ๘ เดือน และปรับ ๑๑,๐๐๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ คนละสามกระทง มีกำหนด ๔ เดือน และปรับคนละ ๕,๕๐๐ บาทและรวมปรับจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ คนละ ๒,๗๕๐ บาท ริบของกลางทั้งหมด ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ และให้จำเลยทุกคนจ่ายเงินสินบนนำจับคนละกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ อุทธรณ์ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้องหรือลงโทษสถานเบา
จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๘ จำเลยที่ ๑๑ และจำเลยที่ ๑๖ ถึงที่ ๓๐ และจำเลยที่ ๓๒ถึงที่ ๓๘ อุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ มีความผิดฐานเป็นผู้ให้มีการเล่นการพนันไฮโลว์และรูเล็ต โดยลงโทษฐานจัดให้มีการเล่นการพนันไฮโลว์ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ อนุมาตรา ๑ อันเป็นบทหนักจำคุกคนละ ๓ เดือน และปรับคนละ ๓,๐๐๐ บาท และจำคุกจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันแปดเก้าอีกคนละ ๓ เดือน และปรับคนละ ๓,๐๐๐ บาท และจำคุกจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันแปดเก้าอีก ๓ เดือน ปรับ๔,๐๐๐ บาท รวมจำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้ ๙ เดือน และปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ คนละ ๖ เดือน และปรับคนละ ๖,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ ปรับฐานเล่นการพนันแปดเก้าคนละ ๑,๐๐๐ บาท จำเลยทั้งสามสิบแปดให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๔ เดือน ๑๕ วันและปรับ ๕,๐๐๐บาท จำคุกจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ คนละ ๓ เดือน และปรับคนละ ๓,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ ปรับคนละ ๕๐๐ บาท ข้อหาจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันไฮโลว์และรูเล็ต กับข้อหาจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ ฐานเป็นผู้เข้าเล่นการพนันไฮโลว์และรูเล็ตให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้แยกกระทงลงโทษจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันไฮโลว์และรูเล็ต กับลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การเล่นการพนันไฮโลว์และรูเล็ต และลงโทษจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ ฐานเป็นผู้เข้าเล่นการพนันไฮโลว์และรูเล็ตตามฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำฟ้องของโจทก์ในข้อ ก. และข. ได้กล่าวบรรยายถึงการกระทำของจำเลยทั้งสามสิบแปดโดยชัดเจนว่าจำเลยทั้งหมดบังอาจร่วมกันเล่นการพนันไฮโลว์ อันเป็นการพนันตามบัญชี ก. หมายเลข ๒๓ และร่วมกันเล่นการพนันรูเล็ต อันเป็นการพนันประเภทล้อหมุนตามบัญชี ก. หมายเลข ๑๕ ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันแต่ละประเภทดังกล่าวเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันแต่ละประเภทดังกล่าว โดยจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ เป็นผู้เข้าเล่น ซึ่งเป็นการกล่าวถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอที่จะให้จำเลยทั้งหมดเข้าใจข้อหาได้ดี แม้จะเป็นการกล่าวถึงการร่วมกันเล่นการพนันสองอย่างคือการพนันไฮโลว์และรูเล็ตในเวลาเดียวกันก็ไม่ถือเป็นการขัดแย้งกันเพราะโจทก์อาจนำสืบพิสูจน์ได้ว่าจำเลยทั้งหมดร่วมกันเล่นการพนันดังที่โจทก์ฟ้อง และจำเลยทุกคนต่างก็ให้การรับสารภาพตามคำฟ้องของโจทก์ที่ว่านี้โดยมิได้หลงข้อต่อสู้ คำฟ้องของโจทก์ในข้อ ก. และ ข. จึงสมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘(๕) แล้วหาใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุมดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์แต่อย่างใดไม่ และพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ได้แยกความผิดของการพนันประเภทต่าง ๆ ไว้ตามบัญชี ก. และบัญชี ข.โดยการพนันแต่ละประเภทดังกล่าวเป็นความผิดอยู่ในตัวเองไม่เกี่ยวข้องกัน ประกอบกับคำฟ้องของโจทก์ก็ระบุยืนยันว่าจำเลยทั้งสามสิบแปดได้กระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน การที่จำเลยทั้งสามสิบแปดร่วมกันเล่นการพนันไฮโลว์และการพนันรูเล็ตตามคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน เมื่อจำเลยทุกคนให้การรับสารภาพ ศาลต้องพิพากษาลงโทษจำเลยแต่ละคนทุกกรรมตามกระทงความผิดที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ฐานเป็นผู้จัดการให้มีการเล่นการพนันไฮโลว์และการพนันรูเล็ตเป็นกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท และพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับคดีของจำเลยที่ ๑ ในข้อหาความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันไฮโลว์และการพนันรูเล็ตและสำหรับคดีของจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๓๘ ในข้อหาความผิดฐานเป็นผู้เข้าเล่นการพนันทั้งสองประเภทดังกล่าวนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับข้อหาความผิดฐานร่วมกันเล่นการพนันไฮโลว์และการพนันรูเล็ตตามคำฟ้องของโจทก์ในข้อ ก. และ ข. ให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓๘ ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share