แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บ.ทำสัญญาชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในนามของตนเองในฐานะผู้ค้ำประกันลูกจ้างของจำเลยในกรณีที่ลูกจ้างก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลย สัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาระหว่างโจทก์กับ บ. ซึ่ง บ. ได้ทำกับโจทก์โดยคิดว่าตนจะได้หลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันที่ทำไว้แก่จำเลยสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับนี้จึงไม่มีผลระงับข้อพิพาทในมูลละเมิดที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ลูกจ้างของจำเลยได้ขับรถยนต์ของจำเลยไปในทางการที่จ้างโดยประมาทชนรถจักรยานยนต์ซึ่งนางสาวอรนุชบุตรโจทก์นั่งซ้อนท้ายมา ทำให้นางสาวอรนุชถึงแก่ความตาย โจทก์ได้รับความเสียหายคือค่าจัดการศพ และขาดค่าอุปการะเลี้ยงดูที่ผู้ตายเคยให้โจทก์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๘๕,๐๐๐ บาท จึงขอให้ศาลพิพากษาและบังคับจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าว
จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการและต่อสู้ว่าโจทก์ได้ตกลงยอมรับเงินจำนวน ๑๕,๐๐๐ บาทจากนายบรรพตตัวแทนของจำเลยแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดอีก
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้ว ความรับผิดในมูลละเมิดจึงระงับไป พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สัญญาระหว่างโจทก์กับนายบรรพตมิใช่เป็นสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลย ความรับผิดในมูลละเมิดยังไม่ระงับ และลูกจ้างขับรถของจำเลยเป็นฝ่ายประมาท พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นเงิน๓๗๐,๐๐๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ลูกจ้างของจำเลยเป็นฝ่ายประมาทและวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ข้อความในเอกสารหมาย ล.๑ ระบุชัดว่า นายบรรพตเพ็งโสภา ทำสัญญาฉบับนี้กับโจทก์ในนามของตนเองในฐานะผู้ค้ำประกันนายประทีปคนขับรถโดยสารของจำเลยในกรณีที่นายประทีปก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลย และมีข้อความว่านายบรรพตยอมจ่ายเงินค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นจำนวน ๑๕,๐๐๐ บาท สัญญาฉบับนี้จึงเป็นสัญญาระหว่างโจทก์กับนายบรรพต ซึ่งนายบรรพตได้ทำกับโจทก์โดยคิดว่าตนจะได้หลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันที่ทำไว้แก่จำเลย ข้อความในเอกสารหมาย ล.๑ ไม่ปรากฏว่านายบรรพตได้ทำสัญญาดังล่าวในฐานะเป็นตัวแทนของนายประทีปหรือจำเลยทั้งการตั้งตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือแต่จำเลยก็ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดง และไม่สามารถนำสืบให้เห็นได้ว่านายบรรพตเป็นตัวแทนเชิดของจำเลยดังที่จำเลยฎีกา ส่วนข้อความในสัญญานี้ที่มีต่อไปอีกว่า นายบรรพตยอมชดใช้เงินให้โจทก์ตามภาระผูกพันในสัญญาค้ำประกันที่ได้ทำไว้แก่จำเลยนั้น ก็เป็นการขยายความว่านายบรรพตมีสัญญาค้ำประกันต่อจำเลยในกรณีที่นายประทีปก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น จึงได้มาทำสัญญาฉบับนี้กับโจทก์ สัญญาฉบับนี้นายณรงค์ สุนทรสถิตย์ ลูกจ้างของจำเลยเป็นผู้เขียนและเป็นผู้ร่วมเจรจาด้วย ถ้ามีข้อตกลงที่มีผลผูกพันจำเลยด้วยก็น่าจะระบุไว้ให้ชัดแจ้ง แต่ก็หามีข้อความใดดังกล่าวไม่ สัญญาประนีประนอมยอมความฉบับนี้จึงไม่มีผลระงับข้อพิพาทในมูลละเมิดที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์
พิพากษายืน