คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรจัดตั้งขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร พ.ศ. 2517 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 (1) ถึง (8) หาใช่ประกอบการค้าโดยทำการซื้อสินค้ามาแล้วขายเป็นปกติธุระไม่จึงมิใช่เป็นพ่อค้าตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165 (1)

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาด และพิพากษาให้ล้มละลาย เจ้าหนี้รายที่ ๑ และรายที่ ๒ ยื่นคำขอรับชำระหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีความเห็นควรให้เจ้าหนี้รายที่ ๑ ได้รับชำระหนี้เป็นเงิน ๓๕๕,๘๒๐.๙๐ บาท ส่วนที่ขอเกินมาให้ยก และให้เจ้าหนี้รายที่ ๒ ได้รับชำระหนี้เป็นเงิน ๑๑,๙๕๐ บาท เต็มตามขอ
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ ๑ และรายที่ ๒ ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้รายที่ ๑ ยื่นคำคัดค้านว่า หนี้ของเจ้าหนี้รายที่ ๒ ขาดอายุความขอให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ ๒ และขอให้เจ้าหนี้รายที่ ๑ ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวนด้วย
ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปแล้ว จึงสั่งแก้ไขใหม่ไม่ได้ ให้ยกคำร้อง
เจ้าหนี้รายที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้รายที่ ๑ ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น
เจ้าหนี้รายที่ ๑ ฎีกาขอให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ ๒
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามที่เจ้าหนี้รายที่ ๑ ฎีกาว่าองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เจ้าหนี้รายที่ ๒ เป็นพ่อค้าตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕(๑) หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรจัดตั้งขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร พ.ศ. ๒๕๑๗ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๖(๑) ถึง (๘) หาใช่ประกอบการค้าโดยทำการซื้อสินค้ามาแล้วขายเป็นปกติธุระไม่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรจึงมิใช่เป็นพ่อค้าตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕(๑) มูลหนี้ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เจ้าหนี้รายที่ ๒ ยังไม่ขาดอายุความ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของเจ้าหนี้รายที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share