คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2459/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม ขอให้รับโจทก์กลับเข้าทำงานจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ชอบแล้วดังนี้ ถือว่าจำเลยต่อสู้ว่าไม่ใช่เป็นการเลิกจ้างอันไม่เป็นธรรม เป็นการปฏิเสธที่จะรับโจทก์กลับเข้าทำงานหาใช่เป็นการยอมรับไม่ ศาลจะสั่งให้นายจ้างรับกลับเข้าทำงานหรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ ที่ให้อำนาจศาลที่จะวินิจฉัยว่าลูกจ้างกับนายจ้างสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่ด้วย ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลโดยต้องคำนึงถึงสภาพจากสถานประกอบการนั้น และความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างถ้าเห็นว่าไม่อาจทำงานร่วมกันต่อไปได้ก็จะกำหนดให้นายจ้างชดใช้ค่าเสียหายแก่ลูกจ้างแทนการบังคับให้รับกลับเข้าทำงาน ดังนั้น การที่ศาลแรงงานกลางนำข้อเท็จจริงที่ฟังได้ในการพิจารณาว่าโจทก์จำเลยไม่อาจทำงานร่วมกันได้มาวินิจฉัยให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายให้กับโจทก์แทนการรับโจทก์กลับเข้าทำงาน จึงหาใช่เป็นเรื่องวินิจฉัยนอกประเด็นไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๙ เลิกจ้างโจทก์โดยมิชอบ โจทก์จึงไปร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๘ ได้มีคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ที่ ๙๔/๒๕๒๔ ยกคำร้องของโจทก์ ซึ่งไม่ถูกต้อง ขอให้เพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์และให้จำเลยที่ ๙ รับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่ง อัตราค่าจ้างและสภาพงานเดิม และจ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์ในระหว่างเลิกจ้างจนกว่าจะรับโจทก์กลับทำงาน
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๘ ให้การว่าคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๙ ให้การว่า เลิกจ้างโจทก์เพราะอัตรากำลังคนมากเกินความจำเป็นจึงต้องลดอัตรากำลังคนและยุบหน่วยงานที่โจทก์สังกัดอยู่ จำเลยมีสิทธิทำได้ตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง การเลิกจ้างจึงชอบแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ที่ ๙๔/๒๕๒๔ เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับโจทก์ที่ ๑ โจทก์ที่ ๓และโจทก์ที่ ๔ เสีย ให้จำเลยที่ ๙ จ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ ๑ โจทก์ที่ ๓ และโจทก์ที่ ๔ คำขออื่นให้ยก และให้ยกฟ้องโจทก์ที่ ๒ และโจทก์ที่ ๕ ด้วย
โจทก์ที่ ๓ และที่ ๔ อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาว่า ที่ศาลแรงงานกลางนำข้อเท็จจริงที่ฟังได้ในการพิจารณาว่าโจทก์ที่ ๓ และที่ ๔ กับจำเลยที่ ๙ ไม่อาจทำงานร่วมกันได้มาวินิจฉัยให้จำเลยที่ ๙ จ่ายค่าเสียหายให้กับโจทก์ทั้งสองแทนการรับกลับเข้าทำงาน เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นหรือไม่พิเคราะห์แล้วคดีนี้โจทก์ที่ ๓ และที่ ๔ ฟ้องว่าจำเลยที่ ๙ เลิกจ้างไม่เป็นธรรมขอให้รับโจทก์ทั้งสองกลับเข้าทำงาน จำเลยที่ ๙ ให้การต่อสู้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ชอบแล้ว ดังนี้คำให้การต่อสู้คดีของจำเลยถือว่าต่อสู้ว่าไม่ใช่เป็นการเลิกจ้างอันไม่เป็นธรรมเป็นการปฏิเสธที่จะรับโจทก์ทั้งสองกลับเข้าทำงาน หาใช่เป็นการยอมรับดังข้ออุทธรณ์ของโจทก์ไม่ ส่วนที่ว่าจะสั่งให้นายจ้างรับกลับเข้าทำงานหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาตามมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งบัญญัติให้อำนาจศาลที่จะวินิจฉัยว่า ลูกจ้างกับนายจ้างสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่ด้วย ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลโดยต้องคำนึงถึงสภาพจากสถานประกอบการนั้น และความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างถ้าเห็นว่าพอทำงานร่วมกันต่อไปได้ก็จะสั่งให้นายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานถ้าเห็นว่าไม่อาจทำงานร่วมกันต่อไปได้ก็จะกำหนดให้นายจ้างชดใช้ค่าเสียหายแก่ลูกจ้างแทนการบังคับให้รับกลับเข้าทำงานซึ่งทั้งนี้เป็นอำนาจของศาลโดยเฉพาะที่จะพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความ หาใช่เป็นเรื่องวินิจฉัยนอกประเด็นประการใดไม่
พิพากษายืน

Share