แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีเกี่ยวกับลายมือชื่อนั้นไม่มีกฎหมายให้อำนาจลงลายมือชื่อแทนกันได้ แม้เจ้าของลายมือชื่ออนุญาตหรือให้ความยินยอมก็ลงลายมือชื่อแทนกันไม่ได้ การที่จำเลยทำหนังสือถึงผู้จัดการสหกรณ์แจ้งให้ทราบว่า ศ. น้องสาวโจทก์เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศและขอลาออกจากสมาชิกสหกรณ์ โดยใช้ชื่อโจทก์หรือลงลายมือชื่อโจทก์จึงเป็นการลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยทำหนังสือดังกล่าวโดยความยินยอมของโจทก์ โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะได้รับความเสียหาย ศ.และสหกรณ์ก็ไม่ได้รับความเสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแสดงตนเป็นโจทก์ ปลอมหนังสือถึงผู้จัดการสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด อ้างว่าเป็นพี่สาวของนางสาวศุภณัฏฐ์ขอลาออกจากสมาชิกสหกรณ์ ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด แทนตัวนางสาวศุภณัฏฐ์ซึ่งเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ และจำเลยปลอมลายมือชื่อของโจทก์ในหนังสือดังกล่าว ทำให้สหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัดหลงเชื่อ อนุญาตให้นางสาวศุภณัฏฐ์ออกจากการเป็นสมาชิก และหักเงินค่าหุ้นและบรรดาเงินอื่น ๆ ของนางสาวศุภณัฏฐ์ชำระให้แก่สหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด เป็นจำนวนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๕
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา แต่ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาโจทก์เฉพาะข้อกฎหมายที่ว่า แม้จำเลยทำหนังสือเอกสารหมาย จ.๑ โดยความยินยอมของโจทก์ จำเลยก็มีความผิดฐานปลอมเอกสาร
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วว่านางสาวศุภณัฏฐ์เป็นน้องสาวของโจทก์ และเป็นเพื่อนกับจำเลย เป็นสมาชิกสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด นางสาวศุภณัฏฐ์ได้ลาออกจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจำกัด แล้วเดินทางไปต่างประเทศนางสาวสุจิภาพแจ้งให้สหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์จำกัดทราบ สหกรณ์ฯต้องการให้มีหนังสือยืนยันในเรื่องนี้ นางสาวสุจิภาพบอกให้จำเลยทราบ จำเลยทำหนังสือโดยใช้ชื่อโจทก์ถึงผู้จัดการสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์จำกัด แจ้งให้ทราบถึงการที่นางสาวศุภณัฏฐ์เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ และขอลาออกจากสมาชิกของสหกรณ์ดังกล่าว ทั้งนี้โดยความยินยอมของโจทก์ ต่อมาคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์จำกัด ได้มีมติให้นางสาวศุภณัฏฐ์ออกจากการเป็นสมาชิก แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า กรณีเกี่ยวกับลายมือชื่อนั้นไม่มีกฎหมายให้อำนาจลงลายมือชื่อแทนกันได้ แม้เจ้าของลายมือชื่ออนุญาตหรือให้ความยินยอมก็ลงลายมือชื่อแทนกันไม่ได้เช่นเดียวกัน การที่จำเลยทำหนังสือโดยใช้ชื่อโจทก์หรือลงลายมือชื่อโจทก์ถึงผู้จัดการสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์จำกัดตามเอกสารหมาย จ.๑ จึงเป็นการลงลายมือชื่อปลอมในเอกสารดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔ แต่การที่จะเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตามบทกฎหมายดังกล่าวต้องได้ความว่า การกระทำเช่นว่านั้นอยู่ในลักษณะโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน โจทก์ฟ้องอ้างว่าการกระทำของจำเลยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยทำหนังสือเอกสารหมาย จ.๑ โดยความยินยอมของโจทก์ โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะได้รับความเสียหาย นอกจากนี้นางสาวศุภณัฏฐ์น้องสาวของโจทก์และสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์จำกัดก็ไม่ได้รับความเสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
พิพากษายืน