แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ทำงานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นการผิดสัญญาจำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบสิ่งก่อสร้างที่โจทก์กระทำไปแล้วโดยไม่ต้องใช้ราคาได้ตามสัญญา
ปัญหาที่โจทก์ฎีกาว่า การริบสิ่งก่อสร้างเป็นเบี้ยปรับซึ่งศาลย่อมพิจารณาให้ลดค่าปรับลงได้ เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาก่อนในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์ติดตั้งเครื่องปรับอากาศโดยตกลงราคาค่าจ้างรวมทั้งค่าสิ่งของสัมภาระ และค่าแรงงานเป็นเงิน ๑,๙๓๒,๐๐๐ บาท โจทก์ทำงานงวดแรกตามสัญญาเสร็จและส่งมอบงานแล้ว จำเลยไม่ยอมชำระค่าจ้างงวดแรกแก่โจทก์โจทก์จึงบอกเลิกสัญญา ในการทำงานงวดแรกนี้โจทก์ได้เสียค่าสิ่งของสัมภาระและค่าแรงงานรวมเป็นเงิน ๑,๒๑๕,๑๙๒ บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ๑,๒๑๕,๑๙๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ผิดสัญญา โจทก์ไม่ส่งมอบงานงวดแรกและไม่ยื่นใบเบิกค่าจ้าง โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา และจำเลยได้บอกเลิกสัญญาแล้ว บรรดาสิ่งก่อสร้างที่โจทก์ได้กระทำขึ้นรวมทั้งสัมภาระ อุปกรณ์การก่อสร้างได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยแล้วตามสัญญา จำเลยจึงไม่ต้องใช้ราคาค่าสิ่งของ สัมภาระ และค่าแรงงานใด ๆ แก่โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ทำงานงวดที่ ๑ ไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นการผิดสัญญา จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบสิ่งก่อสร้างที่โจทก์กระทำไปแล้วเป็นของตน โดยไม่จำต้องใช้ราคาตามสัญญาข้อ ๕ ค. และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่า การริบสิ่งก่อสร้างเป็นเบี้ยปรับซึ่งศาลย่อมพิจารณาให้ลดค่าปรับลงได้นั้น ปัญหาข้อนี้เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาก่อนในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน