คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1978/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ว่า จำเลยบังอาจสมคบร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ไว้ในความครอบครองเพื่อขาย อันเป็นการขายตามกฎหมายนั้น เป็นการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเพียงกระทงเดียว แม้คำขอท้ายฟ้องจะระบุมาตรา 13 กับ 62 อันเป็นความผิดฐานขายกับฐานมีไว้ในครอบครองมาทั้งสองมาตรา แต่เห็นได้ว่า เป็นเรื่องที่ให้ศาลลงโทษฐานขาย หากฟังไม่ได้ศาลจะได้ลงโทษฐานมีไว้ในครอบครองเท่านั้น เมื่อพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานมีไว้เพื่อขาย อันเป็นการขายตามมาตรา 13, 89 และ ศาลลงโทษจำเลยตามนั้นแล้ว ก็เป็นการลงโทษเต็มตามฟ้องแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน จำนวน ๑,๔๐๐ เม็ด ไว้ในความครอบครอง เพื่อขายอันเป็นการขายตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มาตรา ๑๓, ๖๒, ๘๙, ๑๐๖ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๐) ออกตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๒๐ ประเภท ๒ ข้อ ๓ ริบของกลาง
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ จำเลยที่ ๒ รับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มาตรา ๑๓, ๘๙ จำคุกคนละ ๕ ปี ลดโทษจำเลยที่ ๑ หนึ่งในสามแล้วจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๓ ปี ๔ เดือน ลดโทษจำเลยที่ ๒ กึ่งหนึ่งแล้วจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๒ ปี ๖ เดือน ของกลางริบ
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มาตรา ๖๒, ๑๐๖ จำคุกคนละ ๑ ปี ลดโทษจำเลยที่ ๑ หนึ่งในสาม แล้วจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๘ เดือน ลดโทษจำเลยที่ ๒ กึ่งหนึ่งแล้วจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๖ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วฟังว่า จำเลยทั้งสองมีวัตถุออกฤทธิ์ไว้เพื่อขาย เป็นความผิดตาม มาตรา ๑๓, ๘๙ แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าแต่ที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานขายวัตถุออกฤทธิ์ เป็นอีกกระทงหนึ่ง นั้น เห็นว่า ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ว่า จำเลยบังอาจสมคบร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์จำนวน ๑,๔๐๐ เม็ดไว้ในความครอบครองเพื่อขาย อันเป็นการขายตามกฎหมายนั้น เป็นการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเพียงกระทงเดียว แม้คำขอท้ายฟ้องจะระบุมาตรา ๑๓ กับ ๖๒ อันเป็นความผิดฐานขายกับฐานมีไว้ในครอบครองมาทั้งสองมาตรา แต่เห็นได้ว่า เป็นเรื่องที่ให้ศาลลงโทษฐานขาย หากฟังไม่ได้ศาลจะได้ลงโทษฐานมีไว้ในครอบครองเท่านั้น เมื่อพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานมีไว้เพื่อขาย อันเป็นการขายตามมาตรา ๑๓, ๘๙ และ ศาลลงโทษจำเลยตามนั้นแล้ว ก็เป็นการลงโทษเต็มตามฟ้องของโจทก์แล้ว
พิพากษาแก้ เป็นให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share