แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยกระทงแรก 1 ปี กระทงหลัง 2 ปี รวมจำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะอัตราโทษโดยไม่ได้จำคุกจำเลย เพียงแต่ลงโทษปรับสถานเดียวกระทรงละ 5,000 บาท รวมสองกระทงปรับ 10,000 บาท ดังนี้ เป็นการใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษและเป็นการแก้ไขแต่เพียงเล็กน้อย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (อ้างฎีกาที่ 11/2506)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ บังอาจมีใช้เครื่องวิทยุคมนาคมและตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต กับจำเลยทั้งสี่บังอาจร่วมกันดำเนินการบริการส่งวิทยุกระจายเสียงเพื่อสาธารณะ โดยไม่รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔,๖,๒๒,๒๓ พระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๓,๕,๑๖,๑๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒,๓๓,๘๓ ขอให้ริบของกลาง
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔,๖,๒๒,๒๓ พระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๓,๕,๑๖,๑๗ เรียงกระทงลงโทษ กระทงแรกจำคุก ๑ ปี กระทงหลังจำคุก ๒ ปี รวมจำคุก ๓ ปี ของกลางริบทั้งหมด เว้นของกลางอันดับ ๖ ตามบัญชีของกลางท้ายฟ้องให้คืนเจ้าของ คำขออื่นให้ยก ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๒, ที่ ๓, ที่ ๔
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ ผิด ๒ กระทง ให้ปรับกระทงละ ๕,๐๐๐ บาท รวมเป็น ๑๐,๐๐๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะอัตราโทษไม่จำคุกจำเลย เพียงแต่ลงโทษปรับสถานเดียวกระทงละ ๕,๐๐๐ บาท รวมสองกระทงปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท เป็นการใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษและเป็นการแก้ไขแต่เพียงเล็กน้อย ตามประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์