แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดในเรื่องมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตเกิดขึ้นในตัวทันใดที่กรรมเรื่องซื้ออาวุธปืนได้สำเร็จลงแล้วนั่นเอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท เพราะจำเลยมีเจตนาที่จะมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองอยู่ขณะซื้อแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ในวันและเวลาเดียวกัน จำเลยซื้อและมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย และพาอาวุธปืนกับกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะโดยมิชอบ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ พ.ศ. ๒๕๑๙ ข้อ ๓, ๖, ๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑, ๙๐, ๙๑ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๒ ขอให้ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยฐานมีและซื้ออาวุธปืน เป็นความผิดกรรมเดียวหลายบท ลงโทษฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานซื้ออาอาวุธปืนกับฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การจะวินิจฉัยดังกล่าวข้อสำคัญอยู่ที่ากรรมที่จำเลยกระทำอันเป็นความผิดฐานใดฐานหนึ่งได้สำเร็จไปแล้วตอนหนึ่ง แล้วจำเลยได้กระทำกรรมใหม่อันเป็นความผิดขึ้นอีก ดังนี้ จึงเป็นหลายกรรม กรณีนี้กรรมในเรื่องซื้ออาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาตได้สำเร็จไปแล้ว โดยจำเลยมิได้ทำกรรมอะไรใหม่ในเรื่องมีอาวุธปืน เพราะจำเลยมีเจตนาที่จะมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองอยู่ขณะซื้อแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ความผิดในเรื่องมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตเกิดขึ้นในตัวทันใดที่กรรมเรื่องซื้ออาวุธปืนได้สำเร็จลงแล้วนั่นเอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
พิพากษายืน