คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หุ้นของบริษัททั้งหมดเป็นหุ้นสามัญชนิดระบุชื่อ แม้คู่ความจะรับกันว่าทางบริษัทยังไม่ออกใบหุ้นแต่การโอนหุ้นก็ต้องปฏิบัติตาม ป.พ.พ.มาตรา 1129 วรรคสอง เพราะเป็นกรณีโอนหุ้นชนิดระบุชื่อ ซึ่งกำหนดแบบไว้ว่าถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนและผู้รับโอน มีพยานคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือนั้น ๆ ด้วยแล้ว ท่านว่าเป็นโมฆะ เมื่อหนังสือสัญญาโอนหุ้นไม่มีผู้ลงชื่อเป็นพยานรับรองลายมือดังกล่าว การโอนหุ้นระหว่างจำเลยกับโจทก์จึงเป็นโมฆะตามบทบัญญัติดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาโอนขายหุ้นของจำเลยให้แก่โจทก์จำนวน ๒,๕๐๐ หุ้น ราคา ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท และรับเงินส่วนหนึ่งจากโจทก์จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท แต่จำเลยไม่สามารถโอนหุ้นให้แก่โจทก์ได้ ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินจำนวน ๖๑๒,๕๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยทำสัญญาขายหุ้นของจำเลยจำนวน ๒,๕๐๐ หุ้น และได้รับเงินจากโจทก์ ๕๐๐,๐๐๐ บาท จริง แต่โจทก์ต้องชำระค่าหุ้นให้แก่จำเลยอีก ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท และจำเลยจะโอนหุ้นให้โจทก์ เมื่อโจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้ จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่ชอบ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ไม่ชำระเงินค่าหุ้นแก่จำเลย โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยไม่มีหน้าที่ต้องคืนเงินจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ขอให้ยกฟ้อง และให้โจทก์ชำระเงินค่าหุ้น ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๒ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันถัดจากวันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ชำระราคาหุ้น บันทึกข้อตกลงการซื้อขายหุ้นระบุว่า การชำระราคาจะตกลงกันภายหลังเมื่อยังไม่มีการตกลงกันและการซื้อขายหุ้นมีปัญหาโจทก์จึงไม่มีหนี้ใด ๆ ที่ต้องชำระแก่จำเลย ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๓๗ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๕,๐๐๐ บาท ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความสำหรับฟ้องแย้งจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามหนังสือสัญญาโอนหุ้นเอกสารหมาย จ.๑ ซึ่งคู่ความรับกันมีถ้อยคำระบุว่าเป็นสัญญาโอนหุ้นระหว่างจำเลยผู้โอนกับโจทก์ผู้รับโอนโดยชัดแจ้ง และสัญญาข้อ ๓ ระบุว่า ผู้รับโอนตกลงรับโอนหุ้นหมายเลข ๑ ถึง ๒,๕๐๐ รวมทั้งหมด ๒,๕๐๐ หุ้น ผู้โอนและผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในหุ้นดังกล่าวข้างต้นนี้โดยการซื้อขายแก่กันตั้งแต่วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๓๗ รวมเป็นราคาเงิน ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท ผู้โอนยอมขาดจากการเป็นผู้ถือหุ้น และผู้รับโอนยอมเข้าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทบ้านและสวนทวีทรัพย์จำกัด ตั้งแต่วันทำสัญญานี้เป็นต้นไป โดยท้ายสัญญาดังกล่าวมีการลงลายมือชื่อจำเลยผู้โอน และโจทก์ผู้รับโอนไว้ หนังสือสัญญาโอนหุ้นเอกสารหมาย จ.๑ จึงถือเป็นหลักฐานในการโอนหุ้น เมื่อทางพิจารณาได้ความตามข้อบังคับของบริษัทบ้านและสวนทวีทรัพย์ จำกัด ในเอกสารหมาย ล.๓ ว่าหุ้นของบริษัททั้งหมดเป็นหุ้นสามัญชนิดระบุชื่อแม้คู่ความจะรับกันว่าทางบริษัทยังไม่ได้ออกใบหุ้น แต่การโอนหุ้นก็ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๒๙ วรรคสอง เพราะเป็นกรณีโอนหุ้นชนิดระบุชื่อ ซึ่งกำหนดแบบไว้ว่าถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอน มีพยานคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือนั้น ๆ ด้วยแล้ว ท่านว่าเป็นโมฆะ เมื่อหนังสือสัญญาโอนหุ้นเอกสารหมาย จ.๑ ไม่มีผู้ลงชื่อเป็นพยานรับรองลายมือดังกล่าวเลย การโอนหุ้นระหว่างจำเลยกับโจทก์จึงเป็นโมฆะตามบทบัญญัติดังกล่าว ฎีกาของจำเลยเกี่ยวกับประเด็นว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาตามเอกสารหมาย จ.๑ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลง หุ้นตามฟ้องจึงยังคงเป็นของจำเลยอยู่ แต่ข้อเท็จจริงตามที่คู่ความนำสืบได้ความว่า นอกจากสัญญาโอนหุ้นดังกล่าว โจทก์และจำเลยได้ทำบันทึกข้อตกลงไว้ตามบันทึกข้อตกลงด้านหลังเอกสารหมาย จ.๑ ด้วยว่าผู้รับโอนจ่ายเงินให้ผู้โอนในวันทำสัญญา ๕๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจะได้ตกลงชำระกันในภายหลัง โดยในข้อ ๒ ของบันทึกดังกล่าวระบุว่า หากการซื้อขายหุ้นมีปัญหาหรือโมฆะ ผู้โอนจะคืนเงินที่ได้รับไว้แล้วทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย เมื่อได้รับแจ้งด้วยวาจาจากผู้รับโอน และข้อเท็จจริงตามที่คู่ความนำสืบรับกันฟังได้ว่าหุ้นตามฟ้องยังคงเป็นของจำเลยไม่ได้โอนมาเป็นของโจทก์ทั้ง ๆ ที่เวลาล่วงเลยมานานหลายปีแล้ว แสดงว่าการซื้อขายหุ้นมีปัญหา เมื่อโจทก์แจ้งให้จำเลยคืนเงินที่รับไป จำเลยจึงต้องคืนเงินจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ที่รับไปพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายคืออัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีแก่โจทก์ ตามบันทึกข้อตกลงด้านหลังเอกสารหมาย จ.๑ ข้อ ๒ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share