แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ป.พ.พ. มาตรา 1532 กำหนดให้การจัดการแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาเมื่อมีการหย่าไม่ว่าจะเป็นการหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายหรือหย่าโดยคำพิพากษาของศาล โดยมีจุดมุ่งหมายให้มีการแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่คู่หย่าจะแยกจากกัน ฉะนั้นเมื่อโจทก์ฟ้องหย่าจำเลยและขอแบ่งสินสมรสระหว่างโจทก์จำเลย จำเลยก็ย่อมมีสิทธิฟ้องแย้งขอแบ่งสินสมรสระหว่างโจทก์จำเลยเช่นเดียวกัน แม้สินสมรสที่จำเลยฟ้องแย้งจะเป็นสินสมรสอื่นนอกจากที่โจทก์ระบุในคำฟ้องก็ตาม ทั้งนี้เพื่อให้ปัญหาการแบ่งสินสมรสเป็นอันยุติไปพร้อมกับการสิ้นสุดแห่งการสมรสด้วยการหย่า
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง… ขอให้พิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา ให้แบ่งสินสมรสแก่โจทก์และจำเลยในอัตราส่วนเท่ากันคนละ ๒,๘๕๑,๗๙๗.๓๐ บาท กับแบ่งความรับผิดในหนี้สินต่าง ๆ ของสินสมรสในอัตราส่วนเท่ากัน
จำเลยให้การและฟ้องแย้ง… ขอให้ยกฟ้อง แต่หากศาลพิพากษาให้หย่าขาดจากกัน ขอให้แบ่งสินสมรสแก่โจทก์และจำเลยในอัตราเท่ากัน เป็นเงินคนละประมาณ ๕,๐๔๙,๔๐๐ บาท กับแบ่งความรับผิดในหนี้สินเท่า ๆ กันด้วย
โจทก์ให้การและแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่มีสิทธิขอแบ่งทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันและสินสมรสตามคำให้การ เพราะจำเลยไม่ได้ใช้สิทธิฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา… ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากัน…
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์ชำระเงินแก่จำเลยจำนวน ๔๙๒,๗๒๑.๒๘ บาท ให้โจทก์แบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๐๙๒๘ พร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นสินสมรส ที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๐๙๖๔ พร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นสินส่วนตัวของโจทก์และจำเลยให้แก่จำเลยครึ่งหนึ่ง ให้จำเลยแบ่งที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก.) เลขที่ ๕๓๕๕ จังหวัดกาฬสินธุ์ และที่ดินโฉนดเลขที่ ๙๔๕๔๙ กรุงเทพมหานครพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุดรวม ๔ ห้อง ซึ่งเป็นสินสมรสให้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่ง ให้แบ่งรถยนต์เป็นจำนวนเงินตามราคาที่ชำระแล้วครึ่งหนึ่งคือ ๑๕๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ ให้แบ่งกิจการร้านเสริมสวย สกินแคร์ สาขามาบุญครอง ตามสัดส่วนที่ลงทุนให้โจทก์ ๒ ส่วน จำเลย ๑ ส่วน การแบ่งกิจการร้านเสริมสวยสกินแคร์ กับการแบ่งที่ดินและห้องชุดให้โจทก์และจำเลยตกลงแบ่งกันเองก่อน หากตกลงกันไม่ได้ ให้ขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกัน คำขอให้แบ่งทรัพย์สินอื่นนอกจากนี้ให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า…พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยาโดยจดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๓ ตามใบสำคัญการสมรส ไม่มีบุตรด้วยกัน สำหรับปัญหาเรื่องเหตุฟ้องหย่าเป็นอันยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากกันโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา คงมีปัญหาแต่เฉพาะเรื่องการแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาโดยมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่า จำเลยมีสิทธิฟ้องแย้งขอแบ่งสินสมรสอื่นนอกจากสินสมรสที่โจทก์ระบุในคำฟ้องหรือไม่ โดยโจทก์อ้างว่าจำเลยไม่มีสิทธิฟ้องแย้งขอแบ่งสินสมรสอื่นนอกจากสินสมรสที่โจทก์ระบุในคำฟ้อง ต้องไปฟ้องขอแบ่งในฐานะเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมในอีกคดีหนึ่งต่างหาก เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๓๒ กำหนดให้จัดการแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาเมื่อมีการหย่าไม่ว่าจะเป็นการหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย หรือหย่าโดยคำพิพากษาของศาล โดยมีจุดมุ่งหมายให้มีการแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่คู่หย่าจะแยกจากกันไปตั้งครอบครัวของตนขึ้นใหม่ ฉะนั้นเมื่อโจทก์ฟ้องหย่าจำเลยและขอแบ่งสินสมรสระหว่างโจทก์จำเลยด้วยแล้ว จำเลยก็ย่อมมีสิทธิฟ้องแย้งขอแบ่งสินสมรสระหว่างโจทก์จำเลยเช่นเดียวกัน แม้สินสมรสที่จำเลยฟ้องแย้งจะเป็นสินสมรสอื่นนอกจากที่โจทก์ระบุในคำฟ้องก็ตาม ทั้งนี้เพื่อให้ปัญหาการแบ่งสินสมรสเป็นอันยุติไปพร้อมกับการสิ้นสุดแห่งการสมรสด้วยการหย่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิฟ้องแย้งขอแบ่งสินสมรสอื่นนอกจากสินสมรสที่โจทก์ระบุในคำฟ้องได้นั้น… ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น…
พิพากษาแก้เป็นว่า… ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ ๗,๒๗๘.๒๒ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ