คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11182/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภายหลังผู้ตายจดทะเบียนรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว ผู้ตายมาทราบความจริงว่าได้จดทะเบียนรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมผิดไปจากเจตนาของตน แต่ก็ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ดำเนินการเพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมแต่อย่างใด กลับไปเล่าเรื่องราวให้แก่ จ. เขียนบันทึกความเดือดร้อนให้ผู้ตายลงลายมือชื่อไว้ แม้บันทึกดังกล่าวจะมีข้อความแสดงเจตนาของผู้ตายที่ไม่ประสงค์จะรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีผลเป็นการเลิกรับบุตรบุญธรรมตามกฎหมาย

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ยกคำร้องขอผู้ร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายปั๋น ผู้ตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ยกคำร้องคัดค้าน ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังคู่ความที่ไม่โต้แย้งกันในชั้นฎีกาว่า นายปั๋น เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย ผู้คัดค้านเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายกับนางคำ
มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกและมีเหตุสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่ โดยผู้คัดค้านฎีกาว่า ผู้ร้องมิใช่บุตรบุญธรรมของผู้ตาย เพราะผู้ตายลงชื่อรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมโดยสำคัญผิด ทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม จึงไม่ถูกต้องที่ผู้คัดค้านนำสืบบันทึกความเดือดร้อน ที่ผู้ตายทำไว้ก่อนตายว่ามีผลเป็นการตัดผู้ร้องออกจากมรดกผู้ตายนั้น ไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น เพราะได้มีการยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นแล้ว ทั้งการที่ชื่อมารดาของผู้ร้องในเอกสารมีการขูดลบแก้ไขไม่ใช่การแก้ไขให้ตรงกับความจริง หากแต่เป็นเอกสารปลอม ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอจัดการมรดกของผู้ตายเป็นคดีนี้ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ผู้ร้องมีหลักฐานทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม ซึ่งผู้ตายลงลายมือชื่อแสดงเจตนารับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมต่อหน้าพยานและนายทะเบียน โดยมีการบันทึกสอบสวนการรับบุตรบุญธรรมของผู้ตายไว้แล้วเป็นพยานหลักฐาน ผู้ตายมิได้ลงลายมือชื่อเพียงในฐานเป็นสามีผู้ให้ความยินยอมแต่อย่างใด แม้จะได้ความว่า ภายหลังจากผู้ตายจดทะเบียนรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว ผู้ตายมาทราบความจริงว่าได้จดทะเบียนรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมผิดไปจากเจตนาของตน ทั้งที่ได้รับคำแนะนำจากนายอำเภอให้เพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมเสีย แต่ก็ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ดำเนินการเพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมแต่อย่างใด กลับไปเล่าเรื่องราวให้แก่นายจำรัส เขียนบันทึกความเดือดร้อนให้ผู้ตายลงลายมือชื่อไว้ แม้บันทึกจะมีข้อความแสดงเจตนาของผู้ตายที่ไม่ประสงค์จะรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีผลเป็นการเลิกรับบุตรบุญธรรมตามกฎหมาย ทั้งก่อนทำบันทึกผู้ตายยังทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองยกที่ดินโฉนดเลขที่ 19724 ในส่วนที่เป็นของผู้ตายให้แก่ผู้ร้องในฐานะเป็นบุตรบุญธรรมของผู้ตายด้วย ซึ่งผู้ร้องได้รับมรดกในที่ดินนั้นแล้ว สำหรับประเด็นว่าบันทึกมีผลเป็นการตัดผู้ร้องออกจากกองมรดกผู้ตายหรือไม่ อยู่นอกเหนือคำคัดค้านของผู้คัดค้านจึงเป็นการนำสืบนอกคำคัดค้าน ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ภาค 5 จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ ส่วนที่ผู้คัดค้านฎีกาว่า บันทึกด้านหลังทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม มีการแก้ไขชื่อมารดาผู้ให้กำเนิดของผู้ร้อง ซึ่งมีผลต่อความสมบูรณ์ของเอกสารดังกล่าวนั้น เห็นว่า เป็นการแก้ไขข้อมูลที่พิมพ์ผิดให้ตรงกับความจริงเท่านั้น หาเป็นข้อสาระสำคัญที่มีผลต่อความสมบูรณ์ของเอกสารไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ตายจดทะเบียนรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรม ผู้ร้องจึงเป็นทายาทผู้มีสิทธิร้องขอจัดการมรดกของผู้ตายได้ ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมาย ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share