แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 125)
สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้อายัดเงินจำนวน15,916,354.56 บาท จากกรมทรัพยากรธรณีลูกหนี้ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา ต่อมาจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารทหารไทยวงเงิน 10,000,000 บาท มาวางเป็นประกันและได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งอายัด ชั่วคราวดังกล่าวและแจ้งการยกเลิกคำสั่งอายัดชั่วคราวดังกล่าวไปยังกรมทรัพยากรธรณีศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม ให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้องแก่โจทก์ฯลฯ และต่อมาได้มีคำสั่งว่า ศาลมีคำสั่ง อายัดเงินจำนวน15,916,254.56 บาท จากกรมทรัพยากรธรณีกระทรวงอุตสาหกรรมตามคำร้องของโจทก์ และต่อมาศาลได้มี คำสั่งอนุญาตให้จำเลยหาหลักประกันจำนวน 10,000,000 บาท มาวางต่อศาล แล้วให้เพิกถอนคำสั่งอายัดดังกล่าว ดังนี้จึงถือว่าคำสั่งอายัดเงินจำนวนดังกล่าวนั้นถูกเพิกถอนไปแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดดังกล่าวจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมการ อายัดเงินแล้วไม่มีการจำหน่ายในอัตราร้อยละ 1 ของจำนวนเงินที่ศาลมีคำสั่งอายัดตามท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตาราง 5(4) ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้เรียกค่าธรรมเนียมส่วนนี้จากโจทก์แล้ว แต่จนถึงขณะนี้โจทก์ ก็ยังไม่ได้ชำระค่าธรรมเนียมส่วนนี้ จึงให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 1 ของจำนวนเงินที่ศาลมีคำสั่ง อายัดดังกล่าวภายใน15 วัน นับแต่วันนี้ มิฉะนั้นให้ทำหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 295 ตรี
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 118,121)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าโจทก์หาประกันสำหรับจำนวนเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ มาวางศาลให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง
