แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บ้านที่เจ้าพนักงานสรรพากรได้ส่งหนังสือแจ้งการประเมินให้แก่โจทก์ทั้งสอง เป็นบ้านของโจทก์ทั้งสองและโจทก์ทั้งสองก็มีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในบ้านหลังนี้ ทั้งยังปรากฏว่าโจทก์ทั้งสองมาดูแลโต๊ะสนุกเกอร์ที่บ้านเลยที่ดังกล่าวเป็นประจำ การที่เจ้าพนักงานประเมินส่งหนังสือแจ้งการประเมินให้โจทก์ทั้งสอง ณ บ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งเป็นภูมิลำเนาของโจทก์ทั้งสองทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ และมี พ. อายุ 29 ปี ซึ่งอยู่ในบ้านเลยที่ดังกล่าวรับไว้แทน โดยระบุความเกี่ยวพันว่าเป็นลูกจ้าง จึงเป็นการส่งโดยชอบตามประมวลรัษฎากร มาตรา 8 วรรคหนึ่ง แม้จะฟังว่าพ. ทำหนังสือแจ้งการประเมินสูญหายไปดังที่โจทก์ทั้งสองนำสืบ โจทก์ทั้งสองก็หาอาจนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อขอขยายกำหนดเวลาอุทธรณ์ได้ไม่ คำสั่งของจำเลยที่ไม่อนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาการอุทธณณ์เป็นคำสั่งที่ชอบ ไม่มีเหตุที่โจทก์ทั้งสองจะฟ้องให้เพิกถอนได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษายกเลิกคำสั่งของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ไม่รับคำอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์รับคำอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสอง และให้จำเลยอนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาการอุทธรณ์แก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยให้การว่า การที่โจทก์ทั้งสองขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยอนุมัติให้ขยายเวลาการอุทธรณ์แก่โจทก์ทั้งสองนั้น เป็นอำนาจของอธิบดีกรมสรรพากรที่จะอนุมัติให้ขยายได้ เมื่อมีเหตุจำเป็นและเป็นการสมควรซึ่งประมวลรัษฎากรได้ให้อำนาจไว้ตามมาตรา 3 อัฎฐ แต่กรณีของโจทก์ทั้งสองได้ยื่นอุทธรณ์เกินกำหนดเวลาและกรณียังไม่อาจถือได้มีว่าเหตุจำเป็นอันสมควรที่จะขยายกำหนดเวลาการอุทธรณ์ โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความ 500 บาท
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองมีว่า คำสั่งของจำเลยที่ไม่อนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาการอุทธรณ์ชอบหรือไม่ โจทก์มีตัวโจทก์ทั้งสองเบิกความว่า โจทก์ทั้งสองพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 112/1 หมู่ 8 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มิได้พักอาศัยที่บ้านเลขที่ 355/295-296 หมู่ที่ 15 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โจทก์ทั้งสองมิได้รับหนังสือแจ้งการประเมินจนกระทั่งกลางเดือนพฤษภาคม 2542 พนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาตลาดสี่มุมเมือง แจ้งให้โจทก์ทั้งสองทราบว่าจำเลยอายัดเงินในบัญชีเงินฝาก โจทก์ทั้งสองถามเจ้าพนักงานสรรพากรของจำเลยจึงทราบว่าเจ้าพนักงานประเมินได้ประเมินให้โจทก์ทั้งสองเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เห็นว่า บ้านเลขที่ 355/295-296 หมู่ที่ 15 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นบ้านของโจทก์ทั้งสองและโจทก์ทั้งสองก็มีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในบ้านหลังนี้ ประกอบทั้งหนังสือขอความเป็นธรรมที่โจทก์ทั้งสองมีไปถึงสำนักงานสรรพากรภาค 1 โจทก์ทั้งสองก็รับว่าโจทก์ทั้งสองยังประกอบกิจการตั้งโต๊ะสนุกเกอร์ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว และตามเอกสารคำให้การของโจทก์ที่ 1 ต่อพนักงานสอบสวนในคดีที่โจทก์ที่ 1 กับพวกถูกกล่าวหาว่าร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยมิชอบ โจทก์ที่ 1 ให้การว่าโจทก์ทั้งสองมาดูแลโต๊ะสนุกเกอร์เป็นประจำการที่เจ้าพนักงานประเมินส่งหนังสือแจ้งการประเมินให้โจทก์ทั้งสอง ณ บ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งเป็นภูมิลำเนาของโจทก์ทั้งสองทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ และมีนางสาวเพ็ญวดี อายุ 29 ปี ซึ่งอยู่ในบ้านเลขที่ดังกล่าวรับไว้แทน โดยระบุความเกี่ยวพันว่าเป็นลูกจ้าง จึงเป็นการส่งโดยชอบตามประมวลรัษฎากร มาตรา 8 วรรคหนึ่ง แม้จะฟังว่านางสาวเพ็ญวดีทำหนังสือแจ้งการประเมินสูญหายไปดังที่โจทก์ทั้งสองนำสืบ โจทก์ทั้งสองก็หาอาจนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อขอขยายกำหนดเวลาการอุทธรณ์ได้ไม่ คำสั่งของจำเลยที่ไม่อนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาการอุทธรณ์เป็นคำสั่งที่ชอบ ไม่มีเหตุที่โจทก์ทั้งสองจะฟ้องให้เพิกถอนได้อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ