คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7217/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เป็นสัญญาที่โจทก์ผู้รับประกันภัยตกลงใช้ค่าสินไหมทดแทน ค่ารักษาพยาบาล ในกรณีที่วินาศภัยเกิดขึ้นโดยคุ้มครองผู้โดยสารในวงเงินคุ้มครองคนละ 50,000 บาท ต่อคนต่ออุบัติเหตุหนึ่งครั้ง มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี เมื่อโจทก์ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนอันเป็นค่ารักษาพยาบาลให้แก่ บ. ผู้โดยสารในรถที่เกิดอุบัติภัยซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยไปเป็นเงิน 34,466 บาท ไปแล้ว โจทก์จึงเข้ารับช่วงสิทธิ บ. ฟ้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าวจากจำเลยทั้งสองได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 880

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินและดอกเบี้ยจำนวน 93,327.62 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 86,966 บาท นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 51,500 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2538 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน 1,500 บาท
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ได้รับประกันภัยรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 4 ผ – 3201 กรุงเทพมหานคร ในวงเงิน 350,000 บาท คุ้มครองความวินาศภัยทุกชนิดทุกประเภท และคุ้มครองผู้โดยสารภายในรถยนต์จำนวน 2 ที่นั่ง วงเงินคุ้มครองคนละ 50,000 บาท ต่อคนต่ออุบัติเหตุหนึ่งครั้ง มีระยะเวลา 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2537 เวลา 9 นาฬิกาเศษ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน น – 1086 สระแก้ว ของจำเลยที่ 2 ย้อนศรแล้วเลี้ยวตัดหน้ารถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้อย่างกระชั้นชิด เป็นเหตุให้รถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยชนกับรถยนต์คันที่จำเลยที่ 1 ขับ รถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้ได้รับความเสียหายและได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นายบุญส่ง ซึ่งโดยสารในรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้เป็นเงิน 34,466 บาท
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์เพียงประเด็นเดียวว่า โจทก์มีสิทธิรับช่วงสิทธิของนายบุญส่ง ฟ้องเรียกค่ารักษาพยาบาลของนายบุญส่งที่โจทก์ได้จ่ายไปได้หรือไม่ เห็นว่าตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เป็นสัญญาที่โจทก์ตกลงใช้ค่าสินไหมทดแทน ค่ารักษาพยาบาล ในกรณีที่วินาศภัยเกิดขึ้นโดยคุ้มครองผู้โดยสารในวงเงินคุ้มครองคนละ 50,000 บาท ต่อคน ต่ออุบัติเหตุหนึ่งครั้ง มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี เมื่อโจทก์ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนอันเป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับนายบุญส่งซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยไปเป็นเงิน 34,466 บาท ไปแล้ว โจทก์จึงเข้ารับช่วงสิทธิ นายบุญส่งฟ้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าวจากจำเลยทั้งสองได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 880 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นฟ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้แก่โจทก์อีกจำนวน 34,466 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2538 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share