แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้การจดทะเบียนรับรองบุตรจะเป็นการจดทะเบียนภายหลังยื่นคำร้องขอนี้ แต่ตามพฤติการณ์ที่ ส. ให้ผู้ร้องใช้นามสกุล อุปการะเลี้ยงดูผู้ร้อง ทั้งยังเป็นผู้ปกครองในขณะที่ผู้ร้องเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นก่อนที่จะมีการจดทะเบียนรับรองบุตรดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปตลอดมาว่าผู้ร้องเป็นบุตรนอกกฎหมายที่ ส. บิดาได้รับรองมาตั้งแต่ก่อนที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคดีนี้แล้ว ผู้ร้องซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้สืบสันดานและทายาทโดยธรรมจึงมีสิทธิเพียงรับมรดกของ ส. เมื่อ ส. ถึงแก่ความตายเท่านั้น ดังนั้นการที่ผู้คัดค้านได้จดทะเบียนสมรสซ้อนกับ ส. จึงไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิของผู้ร้อง อันเป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่หรือจะต้องใช้สิทธิทางศาลที่จะทำให้ผู้ร้องมีอำนาจมาร้องขอต่อศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 ถือว่าผู้ร้องไม่อยู่ในฐานะเป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 1497 ได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้การสมรสระหว่างนายสุรชัย กับนางสาวจงจิตต์ ตกเป็นโมฆะ
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอ ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาแผนกเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นบุตรของนายสุรชัยกับนางชะอ้อน ซึ่งอยู่กินกันโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ผู้ร้องใช้นามสกุลของบิดามาตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน วันที่ 6 มิถุนายน 2531 นายสุรชัยได้จดทะเบียนสมรสกับนางพนารัตน์ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาวันที่ 3 มิถุนายน 2539 นายสุรชัย ได้จดทะเบียนสมรสกับนางสาวจงจิตต์ ผู้คัดค้าน และวันที่ 7 มิถุนายน 2539 นายสุรชัยได้จดทะเบียนหย่ากับนางพนารัตน์
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามความหมายของ ป.พ.พ. มาตรา 1497 หรือไม่ ผู้ร้องใช้นามสกุลของนายสุรชัย นายสุรชัยให้ความอุปการะเลี้ยงดูผู้ร้อง ทั้งนายสุรชัยเป็นผู้ปกครองของผู้ร้องขณะที่ผู้ร้องเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เห็นว่า แม้การจดทะเบียนรับรองบุตร จะเป็นการจดทะเบียนภายหลังยื่นคำร้องขอนี้ แต่ตามพฤติการณ์ก่อนที่จะมีการจดทะเบียนรับรองบุตรดังกล่าวถือได้ว่าเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปตลอดมาว่าผู้ร้องเป็นบุตรนอกกฎหมายของนายสุรชัยที่บิดาได้รับรองมาตั้งแต่ต้นก่อนที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคดีนี้แล้ว การที่ผู้ร้องซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้สืบสันดานและในฐานะเป็นทายาทโดยธรรมของนายสุรชัยกับนางชะอ้อน ซึ่งผู้ร้องมีสิทธิแต่เพียงรับมรดกของนายสุรชัยกับนางชะอ้อน เมื่อบุคคลทั้งสองถึงแก่ความตายเท่านั้น ดังนั้นการที่ผู้คัดค้านได้จดทะเบียนสมรสซ้อนกับนายสุรชัยดังกล่าว จึงไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิของผู้ร้อง อันเป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่หรือจะต้องใช้สิทธิทางศาลที่จะทำให้ผู้ร้องมีอำนาจมาร้องขอต่อศาลตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 55 ถือว่าผู้ร้องไม่อยู่ในฐานะเป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะตามมาตรา 1497 ได้
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.