แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การระวางโทษทวีคูณตามมาตรา 113 แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้าฯ ที่บัญญัติว่า “บุคคลใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปี กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีก ให้ระวางโทษทวีคูณ” ไม่ต้องพิจารณาว่าจะต้องพ้นโทษจำคุกที่รอไว้อีกหรือไม่ เพราะเพียงแต่ได้รับโทษปรับก็ถือว่าต้องระวางโทษตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้าฯ นี้แล้ว กรณีต้องวางโทษทวีคูณตามบทมาตราดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔     ให้จำคุก ๖ เดือน ปรับ ๕,๕๐๐ บาท โทษจำคุกรอการลงโทษมีกำหนด ๑ ปี ตามคดีหมายเลขแดงที่ ๒๕๒๙/๒๕๔๐              ของศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๐ จำเลยได้รับโทษปรับและพ้นโทษมาแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปีและจำเลยได้มากระทำความผิดในคดีนี้อีก ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๔, ๑๐๘, ๑๑๐, ๑๑๓, ๑๑๕, ๑๑๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๓๓ ริบของกลางและวางโทษทวีคูณแก่จำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๕๒๙/๒๕๔๐               ของศาลอาญากรุงเทพใต้
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔  ส่วนที่โจทก์ขอให้วางโทษทวีคูณนั้น เห็นว่า คดีก่อนนี้ทั้งรอการลงโทษจำคุกและปรับ แม้จะถือว่าพ้นโทษปรับแล้ว แต่ก็ยังถือไม่ได้ว่าพ้นโทษจำคุก กรณีจึงวางโทษจำคุกทวีคูณตามพระราชบัญญัติ      เครื่องหมายการค้า  พ.ศ. ๒๕๓๔  มาตรา ๑๑๓ ไม่ได้   จึงให้ยกคำขอส่วนนี้
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา  ขอให้วางโทษทวีคูณแก่จำเลย
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โทษสำหรับลงแก่       ผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘  ดังนี้  (๑) ประหารชีวิต (๒) จำคุก (๓) กักขัง (๔) ปรับ และ      (๕) ริบทรัพย์สิน การปรับจึงเป็นโทษอย่างหนึ่ง ฉะนั้น การที่จำเลยต้องวางโทษให้ปรับในคดีความผิดตาม               พระราชบัญญัติเดียวกันนี้  เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๐ และมากระทำความผิดนี้อีกจึงเป็นกรณีที่จำเลยพ้นโทษมาแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปี ถือว่ากรณีต้องด้วยมาตรา ๑๑๓ แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ ที่บัญญัติว่า “บุคคลใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้  เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปี  กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีกให้ระวางโทษทวีคูณ” กรณีจึงไม่ต้องพิจารณาว่าจะต้องพ้นโทษจำคุกที่รอไว้อีกหรือไม่   เพราะเพียงแต่ได้รับโทษปรับก็ถือว่าต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔  นี้แล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้วางโทษทวีคูณแก่จำเลยตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามมาตรา ๑๑๓ จำคุก ๔ ปี ปรับ ๑๒๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพ  ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘        คงจำคุกจำเลย ๒ ปี ปรับ ๖๐,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด ๒ ปี  ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษา            ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง

