คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7559/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำแถลงที่ผู้ร้องยื่นต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีที่ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานั้น ผู้ร้องแถลงว่าผู้ร้องตกลงกับจำเลยแล้วโดยจำเลยยอมชำระเงินให้ผู้ร้อง 100,000 บาท ผู้ร้องจึงไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยอีกต่อไป และขอถอนการยึดทรัพย์ของจำเลยโดยจำเลยได้นำค่าธรรมเนียมการถอนการยึดทรัพย์มาชำระแล้ว จึงถือได้ว่าผู้ร้องได้ตกลงรับชำระหนี้จากจำเลยเพียงจำนวน 100,000 บาท และสละสิทธิการบังคับคดีในคดีที่ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าว อันมีผลทำให้หนี้ตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าวระงับแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธินำหนี้ในคดีดังกล่าวมาขอเฉลี่ยจากทรัพย์สินของจำเลยในคดีนี้อีก
ที่ผู้ร้องฎีกาว่า ความจริงผู้ร้องตกลงและขอถอนการยึดทรัพย์ในคดีอื่น ไม่ใช่คดีที่ผู้ร้องอ้างตามคำร้องขอเฉลี่ยนั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

Share