แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้โจทก์เป็นธนาคารพาณิชย์ แต่การที่โจทก์ให้บริการแก่สมาชิกซึ่งทำให้สมาชิกสามารถใช้บัตรที่โจทก์ออกให้ไปใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้โดยไม่ต้องนำเงินสดไปชำระในทันที มีลักษณะเป็นกิจการงานบริการอำนวยความสะดวกแก่สมาชิก โดยโจทก์เรียกค่าธรรมเนียมจากสมาชิกด้วย จึงเป็นการประกอบธุรกิจรับทำการงานต่าง ๆ แก่สมาชิก เมื่อโจทก์ชำระเงินแก่เจ้าหนี้ไปแล้วมาเรียกเก็บจากสมาชิกบัตรในภายหลัง จึงเป็นกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่าง ๆเรียกเอาเงินที่ได้ออกทดรองไปตาม ป.พ.พ.มาตรา 193/34 (7) การฟ้องเรียกเงินทดรองของโจทก์จึงมีอายุความ 2 ปี โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยขอยกเลิกการเป็นสมาชิกบัตรตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2534 พร้อมทั้งให้จำเลยชำระหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตร ดังนี้อย่างช้าที่สุดจะครบกำหนดอายุความในวันที่ 23 พฤษภาคม 2536แต่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2539 จึงขาดอายุความแล้ว
การรับสภาพหนี้ด้วยการชำระหนี้บางส่วนที่จะทำให้อายุความสะดุดหยุดลงต้องกระทำก่อนที่จะขาดอายุความ จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์บางส่วนภายหลังจากขาดอายุความแล้ว จึงไม่เป็นการรับสภาพหนี้อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง การชำระหนี้ภายหลังขาดอายุความดังกล่าวมีผลเพียงแต่ทำให้ลูกหนี้เรียกเงินที่ชำระไปคืนไม่ได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 193/28 วรรคหนึ่ง เท่านั้น