แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับผู้ตาย เมื่อผู้ตายถือมีดเข้ามาท้าทาย จำเลยเพียงแต่ใช้มือผลักอกผู้ตายเท่านั้น การที่ผู้ตายยังเข้าไปหาจะใช้มีดฟันจำเลยอีก จำเลยจึงถีบผู้ตายและใช้มีดฟันผู้ตายไปเพียงครั้งเดียว แม้ผู้ตายจะมีอาการมึนเมาสุรา แต่ตามลักษณะอาการของผู้ตายแสดงว่ายังครองสติได้ การมึนเมาสุราดังกล่าวจะยกขึ้นมาเพื่อฟังให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้ พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยฟันผู้ตายเพื่อป้องกันตนเอง ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา ๒๘๘, ๓๗๑, ๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๗๑ และมาตรา ๒๘๘ ประกอบมาตรา ๖๙ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ตาม ป.อ. มาตรา ๙๑ ฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรปรับ ๙๐ บาท ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ จำคุก ๑๒ ปี รวมเป็นจำคุก ๑๒ ปี ปรับ ๙๐ บาท คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เห็นสมควรลดโทษให้หนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๘ ปี ปรับ ๖๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา ๒๙, ๓๐
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ป.อ. มาตรา ๒๘๘ ประกอบมาตรา ๖๙ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้ความจากคำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์ว่า หลังจากที่ผู้ตายและจำเลยต่างกลับไปบ้านเอามีดและมีดดาบซึ่งมีความยาวใกล้เคียงกันมาแล้ว จำเลยมานั่งเล่นตู้ม้าอยู่ ผู้ตายถือมีดมาท้าทายจำเลย จำเลยใช้มือผลักอกผู้ตาย แต่ผู้ตายกลับเข้าไปจะฟันจำเลย จำเลยใช้เท้ายันผู้ตายเซถลาไปและหยิบมีดซึ่งวางอยู่ข้างตัวฟันผู้ตาย ๑ ครั้ง ตามพฤติการณ์แห่งคดีดังกล่าวย่อมเห็นได้ว่า จำเลยพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับผู้ตาย โดยครั้งแรกเมื่อผู้ตายถือมีดเข้ามาท้าทายจำเลยเพียงแต่ใช้มือผลักอกผู้ตายเท่านั้น หากจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายหรือเจตนาฆ่าผู้ตาย จำเลยย่อมใช้มีดฟันผู้ตายในขณะนั้นแล้ว แต่จำเลยก็ไม่กระทำ การที่ผู้ตายยังเข้าไปหาจะใช้มีดฟันจำเลยอีก จำเลยจึงถีบผู้ตายและใช้มีดฟันผู้ตายไปเพียงครั้งเดียว ซึ่งถ้าจำเลยไม่กระทำเช่นนั้นก็อาจถูกผู้ตายใช้มีดฟันจำเลยได้ แม้ผู้ตายจะมีอาการมึนเมาสุรา แต่ตามลักษณะอาการของผู้ตายแสดงว่ายังครองสติได้ ทั้งการมึนเมาสุราดังกล่าวจะยกขึ้นมาเพื่อฟังให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพฤติการณ์แห่งคดีดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยฟันผู้ตายเพื่อป้องกันตนเอง ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิด ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.