แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ป.อ. มาตรา 36 บัญญัติให้เจ้าของทรัพย์ที่แท้จริงเสนอคำขอคืนของกลางต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วัน คำพิพากษาถึงที่สุด คำว่า “หนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุด” หมายถึงกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับแต่คดีเรื่องนั้นถึงที่สุด โดยเริ่มนับเมื่อสิ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์หรือฎีกาแล้วไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์หรือฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 147 วรรคสอง ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 15 มิใช่นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งริบของกลางแล้วไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์ คดีนี้แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ในเรื่องริบของกลางแต่จำเลยยังอุทธรณ์เรื่องขอให้รอการลงโทษจำคุกอยู่ คดีจึงยังไม่ถึงที่สุด
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๕ (๑) (๗) (๘) (ที่ถูก มาตรา ๓๓๕ (๑) (๗) (๘) วรรคสอง), ๓๓๖ ทวิ จำคุกคนละ ๙ เดือน ริบรถจักรยานยนต์และถุงผ้าของกลาง ส่วนนกเขียวและกรงนกของกลางคืนเจ้าของ ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยทั้งสองคนละ ๒,๕๐๐ บาท อีกสถานหนึ่ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๓ ปี โดยคุมประพฤติจำเลยไว้ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา ๒๙, ๓๐ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้ร้องยื่นคำร้อง ขอให้มีคำสั่งคืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลางและผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งให้คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาข้อแรกของโจทก์ว่า จำเลยยื่นคำร้องขอคืนของกลางเกินกำหนด ๑ ปี ตาม ป.อ. มาตรา ๓๖ หรือไม่ เห็นว่า ป.อ. มาตรา ๓๖ บัญญัติให้เจ้าของทรัพย์ที่แท้จริงเสนอคำขอต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุด คำว่า “หนึ่งปีนับแต่คำพิพากษาถึงที่สุด” หมายถึง กำหนดระยะเวลา ๑ ปี นับแต่คดีเรื่องนั้นถึงที่สุด โดยเริ่มนับเมื่อสิ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์หรือฎีกาแล้วไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์หรือฎีกา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕ มิใช่นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งริบของกลาง แล้วไม่มีฝายใดอุทธรณ์ดังที่โจทก์ฎีกา คดีนี้แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ในเรื่องริบของกลางแต่จำเลยยังอุทธรณ์เรื่องขอให้ รอการลงโทษจำคุกอยู่ คดีจึงยังไม่ถึงที่สุด เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๙ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๐ โจทก์และจำเลยมิได้ฎีกา คดีจึงถึงที่สุดเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๐ การที่ผู้ร้องร้องขอคืนของกลางเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๑ จึงเป็นการร้องขอต่อศาลภายใน ๑ ปี ตาม ป.อ. มาตรา ๓๖ ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน .