แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเดินทางไปเก็บเงินค่าสินค้าจากลูกค้าตามหน้าที่ ซึ่งนายจ้างไม่เคร่งครัดต่อการลงเวลาทำงานในแต่ละวันและลูกจ้างได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ทั้งเวลาที่เดินทางไปและนัดหมายให้ไปรับเงินก็ต่อเนื่อง และคาบเกี่ยวกับเวลาเริ่มทำงานปกติ เหมาะสมตามสภาพของงานที่ลูกจ้างจะพึงกระทำเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง ถือว่าเป็นการเริ่มทำงานให้นายจ้างแล้ว เมื่อลูกจ้างประสบเหตุทางรถยนต์ถึงแก่ความตายในระหว่างเดินทางไปเก็บเงิน จึงเป็นการประสบอันตรายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเลยตามหนังสือที่ ลย 0030/9587 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2540 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนตามหนังสือที่ รส 0711/2013 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2541 และพิพากษาว่านายพีระประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง ขอให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนตามกฎหมายแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลยตามหนังสือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเลขที่ ลย 0030/9587 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2540 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนตามหนังสือสำนักงานกองทุนเงินทดแทนที่ รส 0711/2013 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2541 และให้จำเลยจ่ายค่าทำศพจำนวน 12,800 บาท ค่าทดแทนรายเดือน เดือนละ 1,699.35 บาท นับตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2540 มีกำหนด 8 ปี แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า นายพีระเป็นลูกจ้างบริษัทยูนิเวอร์แซล อิเล็คทริค ซัพพลาย จำกัด ทำหน้าที่ขาย ให้เช่าซื้อสินค้า และติดตามเก็บเงินค่าสินค้าจากลูกค้าโดยไม่มีเงินเดือนแน่นอน คงได้รับแต่เพียงค่าตอบแทนการขายเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าสินค้าและเงินค่าสินค้าที่ติดตามเก็บได้เท่านั้น การไปขายและเก็บเงินค่าสินค้าในแต่ละวันก็มิได้กำหนดไว้แน่นอนว่าจะไป ณ สถานที่ใด ใกล้หรือไกลเพียงใด สภาพการทำงานดังกล่าวจึงทำให้นายจ้างไม่เคร่งครัดต่อการลงเวลาทำงานในแต่ละวัน ทั้งเวลาที่เดินทางไปและเวลานัดหมายให้ไปรับเงินก็ต่อเนื่องและคาบเกี่ยวกับเวลาเริ่มทำงานปกติที่นายจ้างกำหนด ดังนั้น แม้นายพีระไม่ได้ลงเวลาทำงาน แต่ได้แจ้งให้นายนิคมผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางแล้ว
การเดินทางไปเก็บเงินค่าสินค้าจากลูกค้านายจ้างของนายพีระในกรณีนี้จึงเป็นการทำงานที่เหมาะสมตามสภาพของงานที่นายพีระจะพึงกระทำเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง และถือว่าเป็นการเริ่มทำงานให้นายจ้างแล้ว เมื่อนายพีระประสบเหตุทางรถยนต์ถึงแก่ความตายในระหว่างเดินทางไปเก็บเงินจึงเป็นการประสบอันตรายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง ส่วนที่จำเลยอ้างว่า การที่ศาลแรงงานกลางเชื่อว่านายพีระเดินทางไปเก็บเงินค่าสินค้าเป็นการทำงานให้แก่นายจ้าง เท่ากับยอมรับว่าลูกจ้างอาจทำงานเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องรับค่าจ้างหรือค่าล่วงเวลาเพิ่มขึ้นก็ได้ เป็นการฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยนั้น เห็นว่า ศาลแรงงานกลางเพียงแต่วินิจฉัยว่าการที่นายพีระเดินทางไปเก็บเงินค่าสินค้าเป็นการทำงานให้แก่นายจ้างเท่านั้น มิได้วินิจฉัยว่าลูกจ้างอาจทำงานในเวลาทำงานปกติเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ หรืออาจทำงานเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดโดยไม่ต้องรับค่าจ้างหรือค่าล่วงเวลาเพิ่มขึ้นก็ได้ดังจำเลยอ้าง ข้ออ้างของจำเลยจึงไม่มีเหตุผลที่จะรับฟัง การวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางมิได้ฝ่าฝืนกฎหมาย
พิพากษายืน.