คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่บ่อก่อสัตว์น้ำของจำเลยมีช่องสำหรับสัตว์น้ำเข้าออกติดต่อกับลำคลองหน้าวัดซึ่งเป็นเขตที่คณะกรมการจังหวัดประกาศให้เป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทที่รักษาพืชพันธ์ เช่นนี้ หาทำให้บ่อนี้กลายสภาพเป็นที่รักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำไปไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจทำการประมงโดยใช้เครื่องยนต์และระหัตวิดบ่อก่อสัตว์น้ำซึ่งติดกับคลองหน้าวัดลาดยาว ซึ่งอยู่ในเขตที่คณะกรมการจังหวัดประกาศให้เป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทรักษาพืชพันธุ์
จำเลยต่อสู้ว่า บ่อที่จำเลยวิดไม่ใช่ที่จับสัตว์น้ำประเภทที่รักษาพืชพันธุ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บ่อพิพาทอยู่นอกเขตที่คณะกรมการจังหวัดประกาศให้เป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทที่รักษาพืชพันธุ์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จับสัตว์น้ำซึ่งอยู่ในบริเวณพระอารามหรือปูชนีย์สถาน หรือติดกับเขตสถานที่ดังกล่าวแล้วก็ดี จะเป็นที่รักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำตามพระราชบัญญัติการประมง ฯ มาตรา ๘ ได้ ก็ต่อเมื่อคณะกรมการจังหวัดได้ประกาศกำหนดเขตโดยอนุมัติของรัฐมนตรีกระทรวงเกษตราธิการตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗ เสียก่อน ศาลฎีกาได้ตรวจดูประกาศของคณะกรมการจังหวัดฉะเชิงเทราในคดีนี้แล้ว ปรากฎว่ามีอาณาเขตกว้างเต็มลำคลอง ยาวเท่าเขตของวัดซึ่งติดกับด้านที่จับสัตว์น้ำและต่อออกไปอีกทั้งสองข้าง ๆ ละ ๒๐ เมตร ส่วนบ่อล่อสัตว์น้ำของจำเลยอยู่บนฝั่งคลองด้านตรงข้ามกับวัดลาดยาว จึงเห็นได้ว่าบ่อของจำเลยอยู่นอกเขตประกาศของคณะกรมการจังหวัด แม้บ่อนี้จะมีบ่อที่ติดต่อกับลำคลองสำหรับสัตว์น้ำเข้าออกได้ ๒ ช่องก็ดีหาทำให้บ่อรายนี้กลายสภาพเป็นที่รักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำไปไม่ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาโจทก์

Share