แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงได้ความเพียงตามคำรับของจำเลยว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้มี และใช้ปืนแล้ว แต่เลขเครื่องหมายเดิมที่พานท้ายปืนลบเลือนไป จำเลยจึงตอกตราเลขเครื่องหมายเสียใหม่ด้วยตนเอง ดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ขาดว่าการกระทำของจำเลยอยู่ในลักษณะสามารถที่อาจจะเกิดความเสียหายขึ้นแก่สาธารณะชน หรือแก่ผู้หนึ่งผู้ใด จำเลยจึงยังไม่ผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 223,224 (อ้างฎีกาที่ 1006/2481)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือราชการของนายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอท่าแซะ โดยจำเลยประทับตราเลขเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืน ธ.พ. ๕๙๔ ลงที่พานท้ายปืนของจำเลย โดยเลขเครื่องหมายเดิมจำเลยได้ขูดออกเสีย และจำเลยได้ตอกตราประทับขึ้นใหม่ทั้งฉะบับ ซึ่งไม่ใช่ตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน ทั้งนี้โดยลักษณะอาจจะเกิดความเสียหายแก่สาธารณะชนและนายทะเบียนอาวุธปืนท่าแซะขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๒๓,๒๒๔
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ปืนกระบอกนี้จำเลยได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้มีและใช้แล้ว แต่เลขเครื่องหมายเดิมลบเลือนไป จำเลยจึงตอกตราเลขเครื่องหมายเสียใหม่ด้วยตนเอง โจทก์ขอรับข้อเท็จจริงตามที่จำเลยให้การแต่ว่า จำเลยตอกตราเลขเครื่องหมายตรงที่ใหม่ไม่ใช่ตรารอยเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษา จำเลยยังไม่มีผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงเพียงเท่าที่ได้ความจากคำรับของจำเลยนั้น ยังไม่พอที่จะชี้ขาดว่าการกระทำของจำเลยอยู่ในลักษณะสามารถที่อาจจะเกิดความเสียหายขึ้นแก่สาธารณะชนหรือแก่ผู้หนึ่งผู้ใด จำเลยจึงยังไม่มีความผิดดังมีคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๐๖/๒๔๘๑ วินิจฉัยไว้เป็นแบบอย่างแล้ว
จึงพิพากษายืน