แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตั้งตัวแทนไปซื้อที่ดินและให้ลงชื่อตัวแทนในโฉนดด้วยเมื่อตัวแทนซื้อที่ดินแล้ว โอนใส่ชื่อตัวแทนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินนั้นภายหลังตัวแทนลอบเอาโฉนดไปโอนขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นโดยผู้รับซื้อนั้นซื้อโดยสุจริต ดังนี้ ตัวการจะขอให้เพิกถอนทำลายการโอนที่ดินนั้นไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ได้มอบให้จำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนไปซื้อมาพิพาทโฉนดเลขที่ ๖๗๓๕ จากนายนิยมเจ้าของและลงชื่อจำเลยที่ ๑ แทนโจทก์ด้วย เมื่อจำเลยที่ ๑ ซื้อแล้วได้นำโฉนดมามอบให้โจทก์เก็บรักษาไว้ ต่อมาจำเลยที่ ๑ ได้ลอบเอาโฉนดนี้ไปทำการขายให้แก่จำเลยที่ ๒ แล้วต่อมาจำเลยที่ ๒ ได้โอนขายที่แปลงนี้ให้แก่จำเลยที่ ๓ โจทก์จึงขอให้ศาลทำลายนิติกรรมการโอนที่พิพาทรายนี้เสีย ให้ที่ดินกลับคืนสู่สภาพเดิม
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ รับโอนโดยเสียค่าตอบแทนและสุจริต จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ ๑ ซื้อที่ดินพิพาทแทนโจทก์จริงแต่ในโฉนดมีชื่อจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ หาได้มีการจดแจ้งหรือหมายเหตุไว้ในโฉนดให้บุคคลภายนอกมีโอกาศทราบประการใดไม่ว่า ความจริงเป็นตัวแทนของโจทก์ ฉะนั้นเมื่อจำเลยที่ ๒-๓ ได้รับโอนไปโดยเสียค่าตอบแทนและสุจริตแล้วโจทก์ก็จะขอให้เพิกถอนทำลายการโอนไม่ได้ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๑๓๐๐
จึงพิพากษายืน