คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้สั่งจ่ายออกตั๋วแลกเงินสั่งให้ผู้จ่ายใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ผู้รับเงิน มีบุคคลหนึ่งเป็นผู้รับอาวัลด้วย ผู้จ่ายลงนามรับรองแล้ว แต่ไม่ใช้เงินให้ผู้รับเงิน ต่อมาผู้สั่งจ่ายกับผู้รับอาวัลทำบันทึกมอบให้ผู้รับเงินไว้ฉบับหนึ่งมีใจความว่า ขอรับใช้เงินตามตั๋วแลกเงินดังกล่าวนั้นร่วมกันและแทนกัน แต่ขอผัดวันชำระไป และเพื่อเป็นสินเชื่อ ผู้สั่งจ่ายขอนำเอาเครื่องฉายภาพยนต์จำนำผู้รับเงินไว้ การที่ผู้สั่งจ่ายกับผู้รับอาวัลรับรองในเอกสารอื่นมิได้เขียนระบุความลงบนตั๋วแลกเงินนั้นเอง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 952 เช่น นี้ เรียกไม่ได้ว่า เป็นการรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้าและบันทึกดังกล่าวเป็นเพียงผู้สั่งจ่ายเพิ่มหลักประกันให้ผู้รับเงินเพื่อให้ผ่อนเวลาชำระเงินออกไป มิได้เปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้เดิม หรือตัวเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ทั้งไม่มีข้อความส่อว่าคู่กรณีจะระงับหนี้ตามตั๋วแลกเงิน โดยให้ถือเอาสัญญาตามบันทึกนี้แทน จึงไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดตามตั๋วแลกเงินแล้ว คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่า เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๐๒ นายอันธี ผู้ภักดี ได้เป็นผู้สั่งจ่ายออกตั๋วแลกเงินให้โจทก์ยึดถือไว้ ๑ ฉบับ นายเจริญ วณีสอน เป็นผู้รับอาวัล โดยนายอันธีมีคำสั่งให้จำเลยเป็นผู้จ่ายเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท ให้แก่ธนาคารโจทก์ภายใน ๑๐ วัน เมื่อเห็นตั๋วนั้น นายอันธีและนายเจริญยอมให้โจทก์ผ่อนเวลาชำระเงินแก่ผู้จ่าย ทั้งยินยอมให้ผู้ทรงไม่ต้องคัดค้าน วันที่ ๑๓ เดือนนั้นเอง จำเลยได้ลงนามรับรองจะจ่ายเงินแล้วมีจดหมายขอผัดเวลาจ่ายเงินไปวันที่ ๓๐ เดือนนั้น ครั้นถึงกำหนดจำเลยก็บันทึกข้อความลงในตั๋วว่า ขอผัดจ่ายเงินวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๐๒ ครั้นวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๓ นายอันธีและนายเจริญได้ทำบันทึกมอบให้โจทก์ไว้ มีใจความว่า ขอรับใช้เงินตามตั๋วเงินฉบับดังกล่าวร่วมกันและกัน แต่ขอผัดไปชำระในวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๐๓ ในวันทำบันทึกขอผ่อนชำระค่าธรรมเนียมธนาคารให้โจทก์ก่อนและเพื่อเป็นสินเชื่อ นายอันธีขอนำเอาเครื่องฉายภาพยนต์ ๒ เครื่อง จำนำโจทก์ไว้และขอเช่าจากโจทก์ไปใช้ นายอันธีและนายเจริญยังไม่ชำระเงินแก่โจทก์ โจทก์จึงฟ้อง จำเลยตามตั๋วแลกเงิน คู่ความไม่สืบพยาน ขอให้ศาลวินิจฉัยสอบเข้าแก้หน้าหรือเป็นการแปลงหนี้ใหม่ ซึ่งจำเลยไม่ต้องรับผิดตามตั๋วแลกเงินนั้หรือไม่
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่ ไม่ใช่เป็นการสอบเข้าแก้หน้า และไม่เป็นการแปลงหนี้ใหมา พิพากาาให้จำลยชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่นายอันธีและนายเจริญรับรองในเอกสารอื่น ไม่ได้เขียนระบุความลงบนตั๋วแลกเงินตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๕๒ เรียกไม่ได้ว่าเป็นการรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้าและบันทึกดังกล่าวเป็นเพียงผู้สั่งจ่ายเพิ่มหลักประกันให้ผู้รับเงินเพื่อให้ผ่อนเวลาชำระเงินออกไป มิได้เปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้เดิม หรือตัวเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ทั้งไม่มีข้อความส่อว่าคู่กรณีจะระงับหนี้ตามตั๋วแลกเงิน โดยให้ถือเอาสัญญาตามบันทึกนี้แทน จึงไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ พิพากษายืน

Share