คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อกาแฟราคา 60 สตางค์ กินแล้วไม่ชำระราคา ขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การต่อสู้ว่า ชำระแล้วและแถลงขอวางเงินต่อศาล 1 บาท ตามที่โจทก์เรียกร้องทั้งนี้ โดยไม่ยอมรับผิดตามฟ้อง คดียังมีประเด็นที่โต้เถียงกันอยู่ ว่าจำเลยได้ชำระหนี้แล้วหรือยัง
แม้จะเป็นคดีมโนสาเร่ ซึ่งศาลพิพากษาได้ด้วยวาจาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 194 แต่ก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 141 วรรคท้าย คือต้องมีคำวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีตลอดทั้งค่าฤชาธรรมเนียมด้วย จะไม่วินิจฉัยหรือตัดสินว่าใครแพ้ใครชนะในประเด็นใดเพียงแต่สั่งให้โจทก์รับเงินไป กับสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมเท่านั้นไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อกาแฟราคา ๖๐ สตางค์ของร้านโจทก์กินแล้วไม่ชำระราคา ขอให้บังคับให้ชำระค่ากาแฟ ๖๐ สตางค์กับใช้ค่าธรรมเนียมค่าทนายแทนโจทก์
จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ชำระค่ากาแฟแล้ว
แล้วจำเลยยื่นคำแถลงขอวางเงินต่อศาล ๑ บาท ตามที่โจทก์เรียกร้อง ทั้งนี้ โดยจำเลยไม่ยอมรับผิดตามฟ้อง
โจทก์แถลงว่า ถ้าจำเลยชำระค่ากาแฟให้ตามฟ้อง โจทก์ก็ยินดีรับแต่ถ้าขอชำระค่ากาแฟอีก ๖๐ สตางค์ก็ไม่ยอมรับ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เมื่อจำเลยยอมชำระค่ากาแฟให้โจทก์ก็สมประสงค์ตามฟ้องแล้ว จะดำเนินการพิจารณาต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์ คดีนี้เป็นคดีมโนสาเร่ ศาลจึงมีคำสั่งด้วยวาจาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๔ ให้โจทก์รับเงินค่ากาแฟซึ่งจำเลยวางศาลไว้ ๖๐ สตางค์ ไปได้ ค่าธรรมเนียมค่าทนายเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อจำเลยรับว่าได้ซื้อกาแฟจริง และยอมชำระค่ากาแฟให้โจทก์ ก็ไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไป ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์รับค่ากาแฟ ๖๐ สตางค์ ไปได้นั้น ผลก็เท่ากับพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ค่ากาแฟให้โจทก์ส่วนค่าธรรมเนียมค่าทนายนั้น ศาลใช้ดุลยพินิจสั่งได้ตามที่เห็นสมควร จะสั่งให้สืบพยานต่อไปก็ไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลง พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยต่อสู้คดีโดยอ้างว่า ได้ชำระค่ากาแฟแล้ว หาได้รับตามฟ้องไม่ และตามคำแถลงวางเงิน จำเลยก็ยังยืนยันว่าวางโดยไม่ยอมรับผิดตามฟ้อง ส่วนคำแถลงตามรายงานพิจารณาจำเลยก็ว่า ถ้าโจทก์ต้องการอีก ่จำเลยยอมชำระให้ ไม่ใช่ยอมชำระให้ตามฟ้อง คดีจึงยังมีประเด็นที่โต้เถียง กันอยู่ว่า ชำระหนี้แล้วหรือยัง
แม้จะเป็นคดีมโนสาเร่ ซึ่งศาลพิพากษาได้ด้วยวาจาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๔ ก็ตาม แต่ก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรา ๑๔๑ วรรคท้าย คือต้องมีคำวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีตลอดทั้งค่าฤชาธรรมเนียมดังที่ระบุไว้ในข้อ ๕ มาตรานี้ด้วย ศาลจะไม่วินิจฉัยหรือตัดสินว่าใครแพ้ใครชนะในประเด็นใดเพียงแต่สั่งให้โจทก์รับเงินไป กับสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมเท่านั้นไม่ได้ คำสั่งศาลชั้นต้นหามีผลเท่ากับคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ไม่ พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้น ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปให้ถูกต้อง

Share