แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ที่แก้ไขแล้ว จึงไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์รับฟังพยานหลักฐานนอกสำนวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินคำขอของโจทก์ทั้งสอง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2ร่วมกันไถกลบถมที่ดินพิพาทของโจทก์ทั้งสองให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และห้ามเข้าเกี่ยวข้องต่อไป ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองเป็นเงิน 30,000 บาท นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 125)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระ ตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล (อันดับ 124)
คำสั่ง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยที่ 1 ที่ 2
