คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งแปลง แต่เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเพียงบางส่วน ศาลย่อมพิพากษาแบ่งให้ได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยการยกให้ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทโดยทางมฤดก ดังนี้ ไม่ถือว่าผิดคำฟ้อง
โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่นาแปลงเดียวกัน แล้วจำเลยที่ 1 เอาที่ทั้งแปลงไปขายให้แก่จำเลยที่ 2 โจทก์จะขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายทั้งหมดไม่ได้ เพราะจำเลยย่อมมีสิทธิขายส่วนของตนได้ แต่ไม่มีสิทธิขายส่วนของโจทก์ สัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยไม่ผูกพันโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมนายเขียวและนางคำน้อย บิดามารดาโจทก์ได้เอานาฟาง ๑ แปลงไปวางประกันเงินกู้ผู้มีชื่อหลายครั้ง นายเขียวและนางคำน้อยไม่มีความสามารถจะไถ่ถอนที่นารายนี้คืนมา จึงยกให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่โจทก์ แต่ให้โจทก์ใช้ดอกเบี้ยและต้นเงินแก่เจ้าหนี้ โจทก์ได้นำต้นเงินและดอกเบี้ยไปไถ่ถอนนารายนี้คืนมา และครอบครองเป็นเจ้าของเป็นเวลา ๑๐ ปีเศษแล้ว จำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงนางคำน้อยมารดาโจทก์ ให้ทำหนังสือขายให้แก่ตน เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จึงขอให้ศาลแสดงว่านาพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ผู้เดียว และให้เพิกถอนนิติกรรมที่จำเลยทำกับนางคำน้อยเสีย นางเตี้ยงจำเลยให้การว่า ที่นาพิพาทยังเป็นของนางคำน้อย นางคำน้อยได้ทำกรมธรรมสัญญาต่ออำเภอขายให้จำเลยเพื่อเอาเงินใช้แก่เจ้าหนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนได้ ก่อนพิจารณาศาลได้เรียกนางคำน้อยเข้ามาเป็นจำเลยสู้คดีกับโจทก์ นางคำน้อยจำเลยให้การว่าไม่ได้ยกเลิกนาพิพาทให้โจทก์ จำเลยได้ขายนาพิพาทให้แก่นางเตี้ยงจำเลยเพื่อเอาเงินใช้แก่เจ้าหนี้ ศาลชั้นต้นฟังว่านายเขียวบิดาโจทก์ยกนาพิพาทส่วนของนายเขียวให้แก่โจทก์ ส่วนของนางคำน้อยจำเลยฟังไม่ได้ว่ายกให้แก่โจทก์ นาพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างนายเขียวกับนางคำน้อย โจทก์จึงมีส่วนเป็นเจ้าของกึ่งหนึ่ง การซื้อขายระหว่างนางเตี้ยงจำเลย กับนางคำน้อย เป็นไปโดยไม่สุจริต โจทก์มีสิทธิเพิกถอนการซื้อขายเสียได้ พิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของนาพิพาทกึ่งหนึ่ง ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่านายเขียวยกนาให้แก่โจทก์ เมื่อนายเขียวตายแล้ว ส่วนสมรสของนายเขียวก็ตกแก่ทายาท จึงพิพากษาแก้ว่า โจทก์มีสิทธิเป็นเจ้าของที่พิพาท ๑ ใน ๓ นอกนั้นยืนตาม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยคัดค้านว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินคำขอนั้น เรื่องนี้โจทก์อ้างว่า นารายนี้เป็นของโจทก์ทั้งแปลง เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของบางส่วน ศาลก็ย่อมพิพากษาแบ่งให้ได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ ส่วนที่โจทก์อ้างที่มาแห่งสิทธของโจทก์ผิดไปจากที่ได้ความตามทางพิจารณานั้น ก็ปรากฏตามคำฟ้องว่า โจทก์อ้างถึงการครอบครองของโจทก์อันเป็นส่วนสำคัญแห่งที่มาซึ่งสิทธิของโจทก์อยู่ด้วย ข้อที่ว่านางเตี้ยงจำเลยได้รับซื้อไว้โดยสุจริตหรือไม่นั้น เห็นว่า นางเตี้ยงจำเลยเป็นพี่โจทก์ ย่อมทราบความเป็นมาระหว่างกันได้ดีว่า โจทก์มีส่วนได้ในนารายนี้อยู่ด้วย ศาลล่างฟังมาว่า นางเตี้ยงซื้อมาโดยไม่สุจริตชอบแล้ว ข้อที่คัดค้านว่า ควรเพิกถอนฉะเพาะส่วนของโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นว่านางคำน้อยย่อมมีสิทธิขายส่วนของตนได้ เป็นแต่ว่าไม่มีสิทธิขายส่วนของโจทก์ด้วย
พิพากษาแก้ว่า สัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยไม่ผูกพันส่วนของโจทก์ นอกนั้นยืน

Share