คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1823/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประเด็นในเรื่องร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นมีว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกยึดนั้นหรือ ไม่ และตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 55 นั้น ผู้ที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลในกรณีขอให้ปล่อยทรัพย์นั้น ก็หาจำต้องเป็นผู้มีกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นไม่ ผู้มีส่วนได้เสียในกรณีย่อมมาใช้สิทธิทางศาลได้ด้วยการร้องขัดทรัพย์
มีผู้ลอบตัดฟันไม้สักอันเป็นไม้หวงห้ามแล้วแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตภายหลังถูกเจ้าหนี้ยึดไม้เหล่านี้ไว้เพื่อ บังคับคดีกรมป่าไม้ซึ่งรัฐหรือแผ่นดินมอบหน้าที่ให้เป็นผู้ดูแลรักษาไม้หวงห้ามย่อมมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ขอให้ปล่อย ไม้นั้นได้
ไม้ที่หวงห้ามเป็นส่วนควบของป่าไม้แม้จะถูกลอบลักตัดโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นสังหาริมทรัพย์แล้วก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณะสมบัติของแผ่นดินอยู่+

ย่อยาว

คดีนี้เป็นเรื่องพิพาทกันในชั้นขัดทรัพย์โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไม้สักแปรรูปรวม ๑๕๔ ต้น ซึ่งไม่มีรอยดวงตราหรือเครื่องหมายกรรมสิทธิของผู้ใด อ้างว่าเป็นของจำเลยรวมราคาประมาณ ๑๒,๓๒๐ บาท
กรมป่าไม้ยื่นคำร้องขอให้สั่งปล่อยการยึดสำหรับไม้สัก ๑๔๒ ต้น ในจำนวนที่ยึดอ้างว่าไม่ใช่ทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หากเป็นไม้ที่พวกจำเลยสมคบกันตัดฟันและแปรรูปไม้หวงห้าม อันเป็นไม้สักสดในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยได้มาโดยการกระทำผิด
ศาลจังหวัดสุโขทัยสั่งงดการสืบพยานโดยเห็นว่าแม้จะฟังตามคำร้อง กรมป่าไม้ก็ไม่ใช่เจ้าของหรือผู้ถือสิทธิครอบครองไม้ในป่าเหล่านั้น จึงไม่มีสิทธิเข้ามาร้องขัดทรัพย์ จึงสั่งให้ยกคำร้องขัดทรัพย์
ผู้ร้องอุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าประเด็นในเรื่องร้องขอให้ปล่อยทรัพย์นั้น มิใช่จะต้องวินิจฉัยว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของใครประเด็นมีเพียงว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นหรือไม่ ถ้ามิใช่เจ้าของศาลก็ต้องสั่งปล่อยทรัพย์ที่ยึดไปเงื่อนไขแห่งการที่จะยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์สินได้นั้น ก็มีอยู่แต่ในบทบัญญัติใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๕๕ ซึ่งเห็นได้ว่าการใช้สิทธิทางศาลอันเกี่ยวกับทรัพย์นั้น หาใช่ว่าผู้มาศาลจะต้องมีกรรมสิทธิหรือทรัพย์สิทธิอย่างใดในทรัพย์สินนั้นเสมอไปไม่ เช่นเจ้าหนี้หรือผู้มีส่วนได้เสียอย่างอื่นก็อาจสอดเข้ามาในคดีได้ กรณีเรื่องนี้ผู้ร้องอ้างว่าผู้ร้องเป็นผู้ครอบครองดูแลป่าไม้ของรัฐจำเลยได้สมคบกันตัดฟันและแปรรูปไม้สักสดที่ขึ้นอยู่ในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนและผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ทรัพย์สินที่ถูกยึดจึงมิใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษากรมป่าไม้ซึ่งรัฐหรือแผ่นดินมอบหน้าที่มาให้ดูแลรักษาไม้หวงห้าม ย่อมเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิใช้สิทธิทางศาลได้ ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
จึงพิพากษากลับให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณืเสีย ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องไว้พิจารณาต่อไป

Share