คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำด่าและคำใส่ความนั้นต่างกัน ซึ่งจะต้องพิจารณาตามถ้อยคำที่กล่าวทั้งหมดรวมกันประกอบกับพฤตติการณ์แวดล้อมว่าเป็นคำด่าหรือคำใส่ความ
จำเลยได้ทะเลาะกับเจ้าทุกข์แล้วด่ากันไปด่ากันมาได้เนื้อความว่า “มึงมีลูกสาว (หมายถึงนางละมัย) ก็เที่ยวให้เขาเย็ด มีลูกก็ไม่มีพ่อ มียังไม่รู้อีกหรือว่า ลูกมึงดอกทองแล้ว หากจะได้แหวนเพ็ชร ก็ให้เขาเย็ดแลกกับแหวน เดี๋ยวนี้ไปให้เขาเย็ดได้เข็มขัดนาคมาอีกเส้นหนึ่งแล้ว” ดังนี้ เป็นคำด่าที่เกิดขึ้นในขณะจำเลยมีโทษะจริตไม่ใช่คำใส่ความ ไม่มีผิดตามมาตรา 282.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกล่าวคำลามกอนาจารต่อหน้าธารกำนัน และฐานบังอาจกล่าวคำหมิ่นประมาทใส่ความนางน้อย วงษ์ศิริ และนางละมัย วงษ์ศิริต่อหน้าบุคคลแต่ ๒ คนขึ้นไปว่า “มึงมีลูกสาว (หมายถึงนางละมัย) ก็เที่ยวให้เขาเย็ด มีลูกก็ไม่มีพ่อ มีงยังไม่รู้อีกหรือว่า ลูกมึงดอกทองแล้ว อยากจะได้แหวนเพ็ชรก็ให้เขาเย็ดแลกแหวน เดี๋ยวนี้ไปให้เขาเย็ดได้เข็มขัดนาคมาอีกเส้นหนึ่ง” จำเลยปฏิเสธ ศาลชั้นต้นฟังว่านางน้อย นางละมัยฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยอีกฝ่ายหนึ่งทะเลาะกันแล้วด่ากันไปด่ากันมา จนกระทั่งมีข้อความตามฟ้อง แต่นางน้อยนางละมัยไม่ใช่ผู้เสียหายตามนิตินัย พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่เห็นว่าสำหรับความผิดฐานกล่าวคำลามกอนาจารนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแล้วจึงฟังได้ว่า ได้มีการแจ้งข้อหาและสอบสวนแล้ว พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๓๓๗ (๑) ให้ปรับคนละ ๑๐ บาท
โจทก์ฎีกา,
ศาลฏีกาเห็นว่า คำด่าและคำใส่ความนั้นต่างกัน ซึ่งจะต้องพิจารณาตามถ้อยคำที่กล่าวทั้งหมดรวมกันประกอบกับพฤตติการณ์แวดล้อมว่าเป็นคำด่าหรือคำใส่ความ ได้พิเคราะห์คำพะยานในเรื่องนี้แล้ว เห็นว่าเป็นคำด่าซึ่งเกิดขึ้นในขณะจำเลยมีโทษะจริต ไม่ใช่คำใส่ความ จำเลยไม่มีผิดตามมาตรา ๒๘๒
พิพากษายืน.

Share