คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อนายตำหรวดนั้น นายตำหรวดหามีสิทธิฟ้องผู้รับประกันเปนส่วนตัวไม่.
ฟ้องของโจทระบุว่า พ.ต.ต.สงวน ตันสถิตย์ โจท เกิดปีมะแม อายุ 35 ปี ตั้งบ้านเรือนหยู่ หมู่ที่ 2 +ขอยื่นฟ้องนายพามจำเลยและไนรายละเอียดของฟ้องได้กล่าวว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันไห้แก่โจทซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำหรวดภูธรจังหวัดพระตะบองและท้ายฟ้องว่าได้แต่งตั้งไห้พนักงานอัยการเปนทนายความว่าต่าง เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทเปนคำฟ้องส่วนตัว หาไช่ของทางราชการแต่หย่างได้ไม่.

ย่อยาว

คดีนี้นายพันตำหรวดตรีสงวน ตันสถิตย์ เปนโจทฟ้องนายพามเปนจำเลยของไห้สาลบังคับไห้จำเลยไช้เงิน ๓๐๐๐ บาทพร้อมทั้งค่ารึชาทำเนียมและค่าทนายความ ถานผิดสัญญาประกันโดยไม่สามาถส่งตัวผู้ต้องหาได้ตามกำหนดนัด ไนฟ้องได้บันยายว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันสองฉบับไห้แก่โจทซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำหรวดภูธร จังหวัดพระตะบอง
จำเลยไห้การยอมรับผิดตามสัญญา แต่ขอลดชำระเพียง ๓๐๐ บาท
สาลชั้นต้นพิพากสาไห้จำเลยไช้เงินแก่โจท ๓๐๐๐ บาทกับค่าทำเนียม ค่าทนาย
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสากลับไห้ยกฟ้องโจท
โจทดีกา อ้างว่าฟ้องโจทเปนฟ้องไนนามของทางราชการ สาลดีกาเห็นว่าคำฟ้องระบุชัดเจนว่านายพันตำหรวดตรีสงวน ตันสถิตย์ โจทเกิดปีมะแมอายุ ๓๕ ปี ตั้งบ้านเรือนหยู่ หมู่ที่ ๒ ฯลฯ ขอยื่นฟ้องนายพามจำเลยดังนี้สแดงว่า เปนการยื่นคำฟ้องเรียกร้องไห้ไช้เงินแก่โจทเปนส่วนตัว แม้จะปรากตไนรายละเอียดของฟ้องต่อมาว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันไห้ไว้แก่โจทซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำหรวดภูธรจังหวัดพระตะบองและไนด้านหลังคำฟ้องมีว่า โจทขออนุญาตแต่งไห้นายอรุน อิสรภักดี พนักงานอัยการจังหวัดพระตะบอง เปนทนายความของคนก็ดี ก็ไม่ทำไห้คำฟ้องนั้นเปนฟ้องซึ่งทางราชการเปนโจทไปได้โดยประการได จึงพิพากสายืนตาม.

Share